พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า สำหรับภาพรวมคดีอาชญากรรมในกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 11 - 16 เม.ย. มีคดีอาชญากรรม คดีกลุ่ม 1 เกี่ยวกับคดีการทำร้ายร่างกาย คดีฆ่า คดีเพศ ทั้งหมด 12 คดี จับกุมได้ 7 ราย หากเทียบกับปี 60 มีเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น 17 คดี จับกุมได้ 6 ราย ถือว่าภาพรวมดีขึ้น ส่วนคดีกลุ่ม 2 คดีลัก วิ่ง ชิง ปล้น ยักยอกทรัพย์ ฉ้อโกง ปีนี้เกิดเหตุทั้งหมด 43 คดี จับกุมได้ 11 ราย เทียบกับปีก่อนซึ่งมี 81 คดี จับกุมได้ 43 ราย ถือว่าปีนี้ภาพรวมก็ยังดีขึ้น
พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับพื้นที่ 11 จุดทั่วกรุงเทพฯ ที่จัดให้มีการเล่นน้ำสงกรานต์นั้น ไม่พบคดีอุกฉกรรจ์และคดีอนาจาร รวมถึงการเต้นเปลือยกายก็ยังไม่พบ แต่มีคดีเกี่ยวกับทรัพย์ 24 ราย ทำร้ายร่างกาย 6 ราย จำหน่ายแอลกอฮอล์ในจุดห้ามขาย 4 ราย และก่อความเดือดร้อนรำคาญ 1 ราย ในพื้นที่ สน.บางรัก ภาพรวมปีนี้ บช.น. ควบคุมอาชญากรได้ดีกว่าปีก่อน ขณะที่พื้นที่อาร์ซีเอนั้น ตนได้เน้นย้ำให้ตำรวจผู้ปฏิบัติงานอดทน อดกลั้น ให้ใช้วาจาสุภาพ เนื่องจากจุดนี้มีการจำหน่ายแอลกอฮอล์ เพราะเป็นสถานบริการ จึงต้องพูดคุยชี้แจงให้ผู้มาเล่นน้ำเข้าใจ โดยเตรียมกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบไว้ 250 นาย เน้นย้ำประชาชนเรื่องซองกันน้ำที่ใส่มือถือและเงิน ให้ดูแลดีๆ เพราะมีมิจฉาชีพจะใช้คัตเตอร์และมีดแหลมตัดเชือกที่ซองได้ ทางตำรวจจะแจกซองที่เชือกเหนียวป้องกันการถูกกรีดได้ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวมีเนื้อที่ 6,400 ตร.ม. จุคนประมาณ 5,000 คน คาดว่าจะมีประชาชนหมุนเวียนเข้ามาประมาณ 14,000 คน