svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"เพื่อไทย" เจาะสนาม กทม. รักษาเก้าอี้เดิม เพิ่มเติมคือกำไร 

13 เมษายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เพื่อไทย" เจาะสนาม กทม. รักษาเก้าอี้เดิม เพิ่มเติมคือกำไร : คอลัมน์... เจาะประเด็นร้อน โดย... โอฬาร เลิศรัตนดำรงกุล

ณ เวลานี้ ยังไม่มีสัญญาณอะไรเปลี่ยนแปลงจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 แต่อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกๆ วัน ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน




หลังจากวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ที่คสช.ปลดล็อกขั้นแรกให้พรรคการเมืองสามารถเริ่มทำขั้นตอนธุรการ คือการให้สมาชิกพรรคเดิมมายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคได้แล้ว ก็ทำให้บรรยากาศของนักการเมืองกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทำให้มีข่าวการดูดการดึง การทาบทาม การจีบ ส.ส.ทั้งหน้าใหม่ทั้งหน้าเก่า เข้าสังกัดพรรคตัวเอง กันเป็นว่าเล่น แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นในส่วนของส.ส.ต่างจังหวัดทั้งสิ้น




การเลือกตั้งที่ผ่านมาทุกๆ ครั้ง นอกจากคะแนนเลือกตั้งของคนทั้งประเทศแล้ว ก็มีพื้นที่ต้องจับตาและให้ความสำคัญอยู่ไม่น้อย นั่นก็คือสนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร หากมีเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จริงๆ สนามนี้ถือว่าสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่ง เพราะถือว่าใครช่วงชิงเมืองหลวงได้ ก็ย่อมได้เปรียบ




หากย้อนกลับไปการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่วัดผลได้มีการเลือกตั้งอย่างเสร็จสมบูรณ์ก็คงต้องเป็นการเลือกตั้งปี 2554 ในสนามการลือกตั้งกทม. มีส.ส.ได้ทั้งหมด 33 คน โดยพรรคประชาธิปัตย์ ถือว่าชนะในพื้นที่กทม.ไปด้วยส.ส.23 คน ได้คะแนนรวมทั้งสิ้น 1,356,673 คะแนน ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ส.ส.10 คนได้คะแนนรวมทั้งสิ้น 1,246,057 คะแนน




แต่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าในส่วนของพรรคเพื่อไทยเองก็วางเป้าหมายไว้ว่าในพื้นที่กทม. ต้องรักษาเก้าอี้ 10 ที่ไว้ได้ก่อน โดย 10 ที่ เดิมคือพื้นที่หลักสี่ ดอนเมือง สายไหม บางเขน ดุสิต คันนายาว บึงกุ่ม-คลองสามวา หนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง

อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งครั้งหน้าจะมีจำนวนส.ส.ลดลง จาก 33 เหลือ 30 คน และจะมีการแบ่งเขตใหม่ทำให้แต่ละเขตกว้างขึ้น นอกจากรักษาเก้าอี้เดิมให้ได้แล้ว เป้าหมายอีกอย่างหนึ่งคือต้องเพิ่มเก้าอี้ให้มากกว่า 10 ให้ได้ เพราะในการเลือกตั้งครั้งที่มามีพื้นที่ที่มีคะแนนเรียกว่าสูสีหายใจรดต้นคอกันอยู่ 5-10 เขต ที่คะแนนไม่ห่างกันเกิน 3,000 คะแนน จุดนี้เองทำให้พรรคเพื่อไทยมองว่าจะสามารถได้เก้าอี้เพิ่มขึ้นในพื้นที่กทม. เพราะคนกลุ่มนี้ที่คะแนน 3,000 คะแนน คนกลุ่มนี้คือสวิงโหวต จะทำอย่างไรให้สามารถดึงคะแนนของกลุ่มนี้มาให้ได้




เพื่อไทยมองว่าเดิมส.ส.จะห่างกันจำนวนถึง 13 คน แต่หากดูคะแนนทั้งหมดแล้วถือว่าห่างกันไม่มากและสิ่งชี้วัดอีกอย่างหนึ่งที่นำมาใช้ประเมินและวิเคราะห์กันคือผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนทั้งหมด 1,256,349 คือเป็น 47.75 ชนะ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้คะแนนทั้งหมด 1,077,899 คิดเป็น 40.97 ซึ่งมองว่าคะแนนไม่ทิ้งห่างกันมาก สามารถเบียดได้ แต่ไม่ต้องไม่เอาคะแนนประชามติครั้งล่าสุดมาเป็นวัดไม่ได้ เพราะคนที่ออกมาใช้สิทธิ์หรือรับร่างส่วนใหญ่ก็อยากให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเร็วๆ




แต่ก่อนจะถึงการเลือกตั้งสนามใหญ่ในอีกไม่นานตัวที่จะเป็นการเช็กเสียงหรือหยั่งเสียงก่อนการเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นคือ การเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นก่อน ทั้งการเลือกตั้งส.ก.และการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าหากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่อไทยสามารถคัดเลือกบุคคลที่เป็นที่ยอมรับมาเป็นตัวแทนพรรคได้ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยก็มีโอกาสที่จะชนะได้ เพราะสามารถดึงคะแนนกลุ่มสวิงโหวตมาได้




ซึ่งก็มีเสียงแว่วๆ มาว่า บุคคลคนนั้นอาจจะเป็น "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ซึ่งขณะนี้ก็ยังบอกไม่ได้ว่าเขาจะตอบรับหรือไม่ อีกปัจจัยหนึ่งคือคู่แข่งสำคัญอย่างพรรคประชาธิปัตย์ที่จะตัดคะแนนกันเอง เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ ครั้งหน้า เชื่อกันว่า "พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง" จะลงชิงตำแหน่งอีกครั้ง ซึ่งจะลงในนามอิสระ แต่จะมีทหารคอยหนุนหลัง เพราะดูได้จากการตั้งรองผู้ว่าฯ ล่าสุด ที่ตั้ง "สกลธี ภัททิยกุล" เป็นรองผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่




ซึ่ง "สกลธี" เป็นลูกชายของพล.อ.วินัย ภัททิยกุล อดีตเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) และยังเป็นหนึ่งในแกนนำกปปส.อีกด้วย




และหากเป็นสนามเลือกตั้งใหญ่ปัจจัยก็จะเพิ่มมากขึ้นเพราะมีพรรคการเมืองใหม่ที่เกิดขึ้นมาอีก อาทิ พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเชื่อว่า จะมาดึงคะแนนคนที่เป็นกลุ่มสวิงโหวตไปได้อีกเพราะคนเบื่อประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ทหาร ก็ไปเลือกพรรคทางเลือกใหม่ ซึ่งก็จะเป็นการตัดคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเดิมคนที่ไม่เอาเพื่อไทยไม่เอาประชาธิปัตย์ แต่พอต้องเลือกก็ไปเลือกประชาธิปัตย์เพราะไม่มีทางเลือก แต่ตอนนี้มีทางเลือกแล้ว



การเลือกตั้งครั้งหน้าทั้งสนามกทม.และสนามใหญ่ที่จะเกิดขึ้น ไม่ช้าก็เร็วนี้ พรรคเพื่อไทย แอบตั้งความหวังว่าจะสามารถเบียดแทรกชิงพื้นที่ในเมืองหลวงจากพรรคประชาธิปัตย์มาครองให้ได้

logoline