
ศาลยุติธรรม ออกมาชี้แจงถึงสองครั้งสองคราวแต่ยังมีคนต้าน เพราะเหตุใด มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่
เพื่อให้เข้าใจในเรื่องนี้ ตั้งแต่ต้น ก็ต้องไล่เลียงที่มาของโครงการนี้ ทั้งจากฝ่ายต้าน และฝ่ายศาล ซึ่งจะพบว่า มีตัวละคร สอดแทรกในแต่ละห้วงเวลา ส่วนจะเป็นใครกันบ้าง ไปดูกันที่ละขั้น ทีละตอน
เริ่มที่ ขั้นตอนที่ 1.การหาที่ดิน ก่อนรธน.2540 บังคับใช้ ศาล สังกัดอยู่กับกระทรวงยุติธรรม แยกการบริหารคือ ประธานศาลฎีกา กับรมว.ยุติธรรม
โดยที่ กระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่ทางธุรการ รวมถึงการจัดสร้างอาคารต่างๆ ของศาลยุติธรรม ด้วย
ช่วงเวลาที่ 2.ช่วงขอใช้ที่ดิน มีดังนี้
-25 ก.ค.2540 กระทรวงยุติธรรม ขอใช้พื้นที่ 106 ไร่ หลังหน่วยกองพันทหารปืนใหญ่ ที่ 7 แต่กองทัพภาคที่ 3 ปฏิเสธ
-2543 (รัฐบาล ชวน หลีกภัย) กระทรวงยุติธรรม ตอนนั้นปลัดกระทรวง ชื่อ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ (11 พ.ย.2542-8 มี.ค.2549) ขอใช้ที่ดินของกรมธนารักษ์ สร้างที่พักศาลอุทธรณ์ ภาค 5
-20 ส.ค.2543 ศาล แยกจากกระทรวงยุติธรรม (เป็นไปตาม รธน.2540) จัดตั้งสำนักงานศาลยุติธรรม ทำหน้าที่ธุรการศาล
-2547 (รัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร) สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 5 ขอใช้พื้นที่ 143 ไร่ 3 งาน 41 ตารางวา โดยที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผบ.ทบ.ในเวลานั้นเป็นผู้ "อนุญาต"
-2556 (รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้รับงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เริ่มเปิดพื้นที่ก่อสร้างที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บ้านพัก และอาคารชุด สำหรับข้าราชการตุลาการ
มาถึงช่วงเวลาที่ 3.เปิดการประมูล เอกชนทำสัญญา และเป็น บริษัท พี.เอ็น.เอส.ไซน์ จำกัด เป็นคู่สัญญา 4 สัญญา รวมวงเงิน 734,825,000 บาทมี น.ส.รัชนก ภูอิทธิวงศ์, น.ส.วรางคณา ภูอิทธิวงศ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
สำหรับ "ภูอิทธิวงศ์" เป็นนามสกุลเดียวกับ ณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคชาติไทยพัฒนา
/////////