พบทุจริตกองทุนเสมา โอนเงินกระจาย เตรียมเรียก 50 คนสอบปากคำ

ความคืบหน้ากรณีการทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ล่าสุดผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ นายอรรถพล ตรึกตรอง ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกองทุนย้อนหลัง 15 ปี คือตั้งแต่ปี 2546-2561 พบว่า ช่องว่างที่ทำให้เกิดทุจริตคือ การเปลี่ยนระบบการจ่ายเงินของกองทุนเมื่อปี 2546 จากเดิมที่ใช้ตั๋วแลกเงิน มาเป็นวิธีการโอนเงินเข้าบัญชีสถานศึกษาโดยตรง ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่าในปีดังกล่าว นางรจนา สินที อดีตข้าราชการการระดับซี 8 ของกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะผู้ดูแลกองทุน เริ่มมีพฤติการณ์ทุจริต โดยเบิกจ่ายเงินเข้าบัญชีบุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง ทั้งคนใกล้ชิด และเครือญาติ รวมถึงบัญชีส่วนตัวนางรจนาเอง

นอกจากนี้ที่ผิดแปลกไปคือ มีการโอนเงินเข้าบัญชีของนายตำรวจ ยศพลตำรวจตรีนายหนึ่ง รวมถึงบัญชีวัด และโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ทั้งที่ไม่อยู่ในข่ายได้รับทุน โดยคณะกรรมการฯ กำลังตรวจสอบเชิงลึกว่า บุคคลและหน่วยงานเหล่านี้ เข้ามาเกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับนางรจนาอย่างไร รู้เห็นกับการทุจริตหรือไม่ส่วนรูปแบบการโอนเงินพบว่า นางรจนาเบิกจ่ายเงินผ่านกองคลัง ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือ สปศธ. ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่นางรจนาจะทำเรื่องนี้เพียงคนเดียว โดยไม่มีเจ้าหน้าที่รู้เห็น และขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 50 คนมาสอบปากคำ ทว่ามีบุคคลที่มีตัวตนจริงเพียง 20 กว่าคนเท่านั้น แต่ก็มีที่ซ้ำกัน เนื่องจากหมุนเวียนหน้าที่กันทำตลอด 10 ปีที่ผ่านมา

ในวันนี้ (3 เม.ย.) เวลา 14.00 น. คณะกรรมการฯ นำโดยนายอรรถพล ตรึกตรอง จะลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อตรวจสอบทุจริตเงินกองทุนเสมาตามที่ได้รับการร้องเรียน โดยมีโรงเรียน 5 แห่งใน 4 จังหวัดภาคใต้ พัทลุง สุราษฎร์ธานี ชุมพร และนครศรีธรรมราช เตรียมเอกสารหลักฐานพร้อมเข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการฯ ขณะเดียวกันได้ส่งเจ้าหน้าที่อีกชุดลงพื้นที่ จ.ลำปาง เพื่อขยายผลตรวจสอบโรงเรียนในพื้นที่ภาคเหนือด้วย