ต่อกันที่ข้าวหอมมะลิเก่า เพื่อให้ข้าวที่หุงออกมาเรียงเม็ดร่วนสวยงาม เพราะข้าวเก่านั้น ยางข้าวจะน้อย ทำให้เมื่อหุงมาแล้วไม่แฉะ เหมาะกับการนำมาทำข้าวแช่เป็นอย่างดี คดใส่กรวยใบตองจับจีบคล้อง มาลัยมาอย่างงดงาม
เครื่องเคียง หรือกับข้าวที่ทานกับข้าวแช่นั้นก็เป็น พระเอกไม่น้อยหน้ากัน กว่า 6 ชนิด รวมถึงการคัดสรรวัตถุดิบอย่างตั้งใจของเชฟริน ไล่ไปตั้งแต่ ลูกกะปิชุบไข่ทอด เครื่องลูกกะปิครบครันเครื่องเทศไทยๆ เป็นกะปิคลองโคลน ที่ปรุงด้วยกระชายเพื่อดับคาวและเนื้อปลาสำลีเพื่อลดความเค็มโดดของกะปิ ให้ความหวานเค็มกำลังดี
ปลายี่สนผัดหวาน ปั้นก้อนกลมคล้ายๆลูกกะปิ ใช้น้ำตาลโตนดผัด จะได้ความหอมที่เป็นเอกลักาณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจและได้มิติความหวานที่แปลกออกไปอีก
หอมยัดไส้ชุบแป้งทอด ใช้หอมหัวเล็ก พอดีคำ ทอดมาด้านนอกกรอบ ก้านในได้ความนุ่ม หอม หวานของหอมแดง พร้อมไส้ อร่อยลงตัว
พริกหยวกยัดไส้กุ้งสับห่อด้วยไข่หลุ่ม ตาข่าย รสพริกหยวกหอมเผ็ดนิดๆ กุ้งด้านในปรุงมาด้วย พริกไทย รากผักชี เกลือ กำลังดี รสอร่อย
หมูฝอยหวาน กรอบ เบา รสชาติกำลังดี เพิ่มรสสัมผัสด้วยหอมเจียว
ไชโป้วผัดหวาน ผัดจนใสด้วยน้ำตาลเมืองเพชรจากสวนออแกนิค หวานเค็มได้มิติ
รวมถึงเมนูของว่างอีกที่คือปลาแห้งแตงโม ด้วยน้ำปลาสำลีแห้งที่มีสัมผัสของปลาและความหวานหอม กำลังดี พากันสดชื่นไปกับแตงโมคำเล็ก พอดีคำและลงตัว พร้อมแก้วมังกร แกะสลักสวยงามที่เชฟบอกว่าตั้งใจให้ทานกับปลาแห้งได้ เพราะเป็นผลไม้เย็นเหมือนกันกับแตงโม
แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ผักเคียงที่แกะสลักอย่างสวยงามและวิจิตรอย่าง มะม่วงมัน และมะม่วงเปรี้ยวที่แกะสลักออกมาเป็นใบไม้ลายไทยได้สวยงามยิ่ง รวมถึงดอกกระชาย ที่จริงๆแล้วคือรากกระชายน้ำมาปอกเปลือกจนสะอาดและแกะสลักให้เป็นดอกไม้ ขาวอมเหลือง สะอาดสวยงาม เมื่อกัดเข้าไปได้รับความสดกรอบจากกระชาย เข้ากันได้ดีกับ กับข้าว ข้าวแช่ในทุกเมนู
และของหวานปิดท้ายที่ผมคิดว่าเป็น Hi-light ไม่แพ้เมนูอื่นๆเลย คือมะปรางริ้ว แช่อิ่ม เชฟรินบอกว่าเป็นการริ้วแบบวัง กุญชร ณ อยุธยา ซึ่งการริ้วมะปรางในแบบของแต่ละบ้านละวังจะมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกัน จึงต้องแจ้งที่มาของแต่ละแบบเพื่อให้เข้าใจกันด้วย รสชาติ หอม หวาน ตัดเค็มเพื่อความสดชื่น เสิร์ฟเย็นในหน้าร้อนนั้น ถ้วยเล็กๆนี่คือสวรรค์ของคนชอบของหวานแบบไทยๆยิ่งนัก
และยังมีชาที่ทางห้องศิลาดล แนะนำอย่าง สุโขทัย ที ที่ทำการผสมผสานของราก ก้าน ใบ ดอก กลีบ เกสร บัวออแกนิกกับตะไคร้ ใบเตย ออกมาได้กลิ่นที่หอมในแบบไทยๆ น้าว่าคุณต้องไม่เคยได้กลิ่นชานี้จากที่ไหนมาก่อน หอม ไทยๆ จริงๆครับ
พร้อมกันนี้ยังมีเมนูอาหารไทยสุดวิจิตรไว้ให้คุณเลือกลิ้มลองกันอีกมากมาย
ห้องอาหารศิลาดล โณงแรมสุโขทัย
เวลาเปิด ปิด มื้อกลางวัน 12.00-15.00 มื้อเย็น 18.00-23.00
สำรองที่นั่งโทร. 66 (0) 2344 8888 หรือ Email: [email protected]