คาดว่าน่าจะมีตัวแมลงพลับหากินอยู่ จึงจอดรถยนต์พร้อมเปิดไฟหน้ารถไว้ ใกล้ๆต้นเนียง จากนั้นก็ปูเสื่อไว้หน้ารถแล้วช่วยกันผลักต้นเนียงให้สั่นไหว เพียงครู่เดียวทุกคนก็ต้องตกตลึงกับฝูงแมลงพลับที่บินว่อนเข้าหาดวงไฟหน้ารถแล้วตกลงบนเสื่อที่ปูไว้ แล้วทุกคนก็ช่วยกันจับตัวแมลงพลับใส่กระสอบปุ๋ย เพียงแค่ประมาณ 45 นาที ก็สามารถจับตัวแมงพลับได้ถึง 3 กระสอบ จึงรีบนำกลับบ้าน ล้างด้วยน้ำพร้อมกับเด็ดหัว เด็ดปีก เด็ดขา และตรงส่วนท้ายของมัน ออก เพื่อเตรียมคั่วกับกะทิ เอาไว้กินกันในครอบครัว แจกจ่ายเพื่อนบ้าน เหลือจากนั้นก็ขาย กิโลกรัมละ 200-250 บาท
แมลงพลับเป็นแมลงปีกแข็งชนิดหนึ่ง มีขา 6 ขา มีลักษณะคล้ายๆ กับด้วงกว่างตัวเมีย แต่ตัวมีขนาดเล็กกว่า สีเทาๆ หม่นๆ รูปร่างป้อม มีขนปกคลุม ขุดรูอยู่ใต้ดินหรือรากไม้ กลางวันจะหลบแดดอยู่ในรู กลางคืนจะบินออกมาหากินใบอ่อนของต้นไม้ คนอีสานเรียก แมงจินูนใหญ่ สำหรับคนใต้เขาเรียกว่า แมงพลับ หรือแมงพลัด เมื่อใกล้ย่างเข้าสู่หน้าฝน ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ของทุกปี ตัวอ่อนที่อาศัยอยู่ใต้ผิวดินก็แก่เต็มที่มีปีกแข็ง พอได้รับน้ำฝน ดินชื้น ซึ่งตรงกับช่วงฤดูฝน ใบไม้เริ่มผลิใบ ตัวเต็มวัยที่อยู่ในดินจะบินขึ้นมากินยอดใบไม้ที่ชอบกิน ช่วงแรกๆ ที่บินขึ้นมาจากดินใหม่ๆ ชาวบ้านไม่ค่อยจับกันเพราะยังไม่มีไข่ ต้องรอให้แมงพลับผสมพันธุ์และมีไข่เต็มท้องเสียก่อน ซึ่งชาวบ้านบอกว่าช่วงนี้แหละจะอร่อยที่สุด