svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ไลฟ์สไตล์

ถ้าวันหนึ่งเราหายไปจากโลกโซเชียล เราจะมีความสุขจริงหรือ ?

19 มีนาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ถ้าวันหนึ่งเราหายไปจากโลกโซเชียล เราจะมีความสุขมากขึ้นจริงหรือ? หรือจริงๆแล้วเราควรอยู่กับโลกโซเชียลอย่างไร อะไรคือวามพอดี โซเชียลมีเดียควรมีบทบาทกับเราอย่างไร

คำถามที่กล่าวมา อาจเป็นสิ่งที่คนจำนวนไม่น้อยในยุคนี้ที่ต้องการคำตอบ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าใครใคร ก็ดูเหมือนจะมีบางส่วน หรือทั้งหมดในชีวิตที่ลงไปอยู่ในโลกโซเชียลเหล่านี้ มันดูจะเป็นสิ่งที่ให้ความสุข และให้ความทุกข์ความน่ารำคาญในเวลาเดียวกัน ยกตัวอย่างกับกรณีที่เกิดขึ้นกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี


"ผมหาเจอแล้ววิธีทำให้ตัวเองมีความสุข คือไม่เล่นเฟซบุ๊ก ไม่เปิดอ่านหนังสือพิมพ์ ไม่ดูโซเซียลมีเดีย ทำให้ในหัวโล่งทั้งวัน คิดเรื่องต่างๆได้มาก แต่ถ้ามาเปิดอ่านตั้งแต่เช้า พอมาถึงที่ทำงานก็หมดแรงข้าวต้มเพราะเห็นว่ามีแต่คนด่าผมทั้งวัน"


จากคำกล่าวของพลเอกประยุทธนี้ เป็นไปได้ว่า เขาอาจจะมีความสุขมากขึ้นจริงๆ หลังจากเลิกเล่นเฟสบุ๊ค และคนอย่างเราๆ ก็อาจเคยมีโมเม้นอย่างนี้ด้วยเหมือนกัน


คำถามก็คือ "อะไรในเฟสบุ๊คที่ทำให้เราไม่มีความสุข"


คำตอบน่าจะมีอยู่ในใจของทุกคนอยู่แล้ว และปัญหานี้ก็ดูจะเป็นปัญหาร่วมกัน ระดับโลกเลยทีเดียว เพราะเมื่อเร็วๆนี้ ที่เกาะบาหลีมีการจัดกิจกรรมที่ใช้ชื่อว่า "วันแห่งความเงียบ"


ทุกสถานที่ บนเกาะบาหลี จะปิดสัญญาณอินเทอร์เน็ต เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อวันเสาร์ที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านที่นั่นรู้จักกันดีว่าวันนั้น คือ "วันนเยปิ" (Nyepi Day) ซึ่งถือเป็นวันปีใหม่ และวันหยุดของชาวบาหลี ตามปฏิทินของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู


ถ้าวันไหนที่คุณรู้สึกเบื่อโลกโซเชียลขึ้นมา คุณอาจใช้วิธีนี้ ให้เป็นวันแห่งความเงียบของตัวเองสักวันก็ได้


แต่เชื่อเถอะว่าคุณจะอยู่เงียบๆ ได้ไม่นาน จิตใจก็จะเริ่มร่ำร้อง โหยหา เฟซบุ๊ค ด้วยความอยากรู้อยากเห็นต่างๆ


มันอาจจะจริงอยู่ ที่โซเชียลมีเดียมีไว้ติดต่อสื่อสาร แต่นอกเหนือจากนั้น มันคือการพรีเซ็นต์เรื่องราว ของเพื่อนในเฟสบุ๊ค ที่อาจมีทั้งเรื่องที่เราอยากรู้ และไม่อยากรู้ หรือถ้ารู้ จะเกิดการตีความไปต่างๆนานา คิดมาก ไม่มีสมาธิ


ปัญหาจุกจิกใจพวกนี้ ตั้งสติดีดี คุณก็น่าจะรู้ดีว่ามันควรแก้ปัญหาอย่างไร


ผมเองเคยหายจากเฟสบุ๊คไป เมื่อครั้งต้องเดินไปประเทศจีน ที่นั่นเฟสบุ๊ค ไลน์ ทวิตเตอร์ และยูทูป ถูกบล็อกโดยัฐบาล วิธีเดียวที่คนไทยอย่างเราจะเล่นเฟสบุ๊ค เล่นไลน์ได้ คือการเปิดโรมมิ่ง


แต่ผมเลือกที่จะไม่เปิด เพราะตั้งใจว่าจะหายไปจากโลกโซเชียลไปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์


วันแรกที่หายไปจากเฟสบุ๊ค และไลน์ซึ่งมีเป็นหลายสิบกรุ๊ป คือผมไม่รู้เลยว่าเมืองไทยเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่ามีความเคลื่อนอะไรเกิดขึ้นที่ออฟฟิศ


มันสงบมาก แต่มันก็น่าเบื่ออยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ได้ ณ ช่วงเวลานั้น คือการอยู่กับตัวเอง ออกไปเดินเล่น ออกไปใช้เวลาค่อยๆ บรรจงถ่ายรูป ได้นอนอยู่เงียบๆ ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ เพราะฟังภาษาจีนจากทีวีจีนไม่รู้เรื่อง


หนึ่งสัปดาห์ที่จีน มันสงบมากๆ เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง เหมือนเป็นการะเกดที่ได้ย้อนกลับไปในสมัยกรุงศรีอยุธยา


แต่... การหายไปแบบนั้นทั้งชีวิตเป็นไปไม่ได้สำหรับผม เพราะการเป็นนักข่าว การหายไปจากโซเชียล ไม่ต่างอะไรจากการไม่ทำงาน หรือหยุดงาน


ดังนั้นหลังกลับมาจากจีน ผมจึงตั้งใจว่าจะต้องตั้งหลัก จัดระเบียบกับการใช้โซเชียลมีเดีย ทั้งหมด


การหายตัวไป โดยไม่บอกใคร ก็ทำให้เรารู้ว่า มีกี่คนที่ถามถึง ว่าเราหายไปไหน ความจริงก็คือ ไม่มีใครอยากรู้เรื่องคนอื่น มากกว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง


ทางสายกลางในโซเชียลมีเดีย คือหากเราต้องรับรู้ทุกเรื่อง ก็อาจแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นบ้างก็ได้


เพราะ "การทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น" เป็นศิลปะในการใช้ชีวิต ที่ชาญฉลาด และ แยบยลที่สุด


logoline