รวบโจรสวมบัตรปชช. เปิดบัญชีตุ๋นเหยื่อหลอกขายสินค้าออนไลน์

ที่ บก.สส.บช.น. เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 14 มีนาคม 2561 มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อม พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.นภัสพงษ์ ทัศนา สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.ร.ต.อ.สิทธิเดช หาญจริง รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ร่วมกันนำกำลังตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. จับกุมตัว นายอาทิตย์ หรือโดม สระกวี อายุ 39 ปี ผู้ต้องหา พร้อมของกลางบัตรประชาชนของผู้เสียหาย จำนวน 2 ใบ โทรศัพท์ซัมซุง สีขาว 1 เครื่อง โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณทางเดินข้างถนนสุขาประชาสรรค์ 2 หน้าวัดกู้ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากถูกคนร้ายนำบัตรประชาชนที่มีผู้ทำสูญหายไปใช้ปลอมทำวุฒิการศึกษาเพื่อสมัครงาน จากนั้นได้นำบัตรประชาชนดังกล่าวไปใช้ปลอมแปลงเป็นบุคคลตามบัตรนั้นเพื่อเปิดบัญชี ก่อนนำไปใช้ก่อเหตุหลอกลวงเหยื่อขายสินค้าตามเพจเฟซบุ๊ก รวมทั้งเว็ปไซด์ขายสินค้า ต่างๆ แต่ไม่มีสินค้าอยู่จริง หนำซ้ำยังเอาบัตรไปเปิดหมายเลขโทรศัพท์เพื่อเอาไปโทรหลอกคนอื่น จนทำมีผู้ได้รับความเดือดร้อนไปตามๆกัน จากนั้นทางตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนเร่งรัดติดตามคนร้ายรายนี้เรื่อยมา กระทั่งพบเบาะแสว่าบุคคลดังกล่าวคือ นายอาทิตย์ หรือโดม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่มีพฤติกรรมการก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วบ่อยครั้ง ต่อมาได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรี ออกหมายจับ กระทั่งสืบทราบว่าผู้ต้องหามักเดินทางมาบริเวณทางเดินข้างถนนสุขาประชาสรรค์ 2 หน้าวัดกู้ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อยู่บ่อยครั้ง จึงนำกำลังไปตรวจสอบจนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวสอบสวน ที่ บก.สส.บช.น.

สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเพิ่งออกจากเรือนจำมาเมื่อ 4 ปีก่อน และตกงาน เนื่องจากถูกต้องคดีรับของโจร จนทำให้ไม่มีนายจ้างใดกล้ารับไปทำงาน จึงต้องใช้วิธีนี้หาเงินมาเลี้ยงชีพ อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ ต้องทำการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อทำการขยายผลอีกครั้ง ทั้งนี้ทางตำรวจเชื่อว่าคนร้ายรายนี้ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง และเมื่อตรวจสอบประวัติพบว่ามีหมายจับอีก 2 หมาย ในข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ ของศาลจังหวัดธนบุรี เมื่อปี 2554 และในข้อหา ยักยอกทรัพย์ ของศาลจังหวัดเกาะสมุย เมื่อปี 2555 เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และนำบัตรประชาชนของผู้อื่นไปใช้แสดงว่าตนเป็นเจ้าของบัตรนั้น" ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ฝากเตือนผู้ที่ทำบัตรประชาชนหายให้รีบไปแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐาน หากกรณีที่มีการร้องทุกข์ ทางพนักงานสอบสวนจะทำการออกหมายเรียกไปยังภูมิลำเนาตามบัตรประชาชนเป็นหลัก ดังนั้นหากได้รับหมายเรียกให้ท่านรีบไปพบ พนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งเหตุ หรือ หากมีการย้ายภูมิลำเนาควรแจ้งย้ายให้เป็นปัจจุบันหรือหากไม่อาจแจ้งย้ายได้ควรมีผู้ดูแลเรื่องการจัดส่งเอกสารเพื่อให้ทราบโดยเร็ว เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รีบให้ความช่วยเหลือท่านได้และสืบสวนหาตัวคนร้ายที่แท้จริงมาเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อ สำหรับกรณีมีเบาะแสหรือมีข้อสงสัยจะถูกหลอกลวงสามารถให้เบาะแสหรือขอคำปรึกษาได้ที่ เพจของ กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการ ตำรวจนครบาล เพื่อจะได้ให้ความช่วยเหลือและคำปรึกษากับประชาชนต่อไป