เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ฐากร ตัณฑสิทธิ์ บอกว่า วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการ กสทช.หรือบอร์ด กสทช. จะหารือแนวทางในการดำเนินการหลังจากศาลปกครองกลาง ตัดสินให้เจ้ติ๋ม ทีวีพูล สามารถคืนใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัลได้ และให้กสทช.คืนเงินให้เจ้ติ๋ม เป็นเงิน 1,500 ล้านบาท ซึ่งแนวทางที่จะดำเนินการต่อจากนี้ เชื่อว่ากสทช.น่าจะยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยของศาล
โดยประเด็นที่จะยื่นอุทธรณ์ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กสทช. สมบัติ ลีลาพตะ บอกว่า เป็นประเด็นการคืนหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งศาลอาจมองว่า กสทช.ควรคืนเงินประมูลส่วนที่ยังไม่ได้ประกอบกิจการ แต่ส่วนตัวมองว่า อนาคตอาจทำให้การแบ่งจ่ายงวดเงินประมูล เช่น การประมูลทีวีดิจิทัล หรือ ประมูลคลื่นโทรคมนาคม หากแบ่งซอยงวดเงินประมูลให้จ่ายได้หลายงวด อาจทำให้ มีความเสี่ยงเหมือนกรณีนี้ ที่ศาลไม่ได้มองว่า เป็นเงินประมูลทั้งก้อนเดียวกัน แต่เป็นการมองว่า ใช้คลื่นความถี่เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น
ส่วนเหตุผลที่พิจารณาว่าโครงข่ายไม่ครอบคลุมก็ยังมีความน่าสงสัย เนื่องจาก บริษัทไทยทีวีกล่าวอ้างโครงข่ายของ กรมประชาสัมพันธ์ ที่มีความล่าช้า มาเป็นประเด็นต่อสู้ในชั้นไต่สวน แต่ข้อเท็จจริง คือ บริษัท ไทยทีวี ไม่ได้ใช้โครงข่ายของกรมประชาสัมพันธ์ แต่เป็นการใช้โครงข่ายของ ไทยพีบีเอส ซึ่งดำเนินการเสร็จได้เร็วกว่าแผนงานที่กำหนด ซึ่งในชั้นของการไต่สวนได้แจ้งให้ผู้พิจารณารับทราบแล้ว แต่สุดท้ายเมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้ก็ต้องยื่นอุทธรณ์ตามช่องทาง
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 15 มี.ค.นี้ รองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม ได้เชิญสมาคมผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลและกสทช.ไปหารือถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ