ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาคดี ระหว่าง บริษัท ไทยทีวี จำกัด ของนางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ ติ๋มทีวีพูล ที่ยืนฟ้อง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) กรณี กสทช. เพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และประกอบกิจการโทรทัศน์ และให้ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อ้างว่าผู้ฟ้องคดีไม่ชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตดังกล่าวให้ถูกต้องครบถ้วนก่อนเลิกการประกอบกิจการ ซึ่งผู้ฟ้องคดีเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวตกเป็นโมฆะ เพราะผู้ฟ้องคดีได้แจ้งยกเลิกใบอนุญาตและยุติการดำเนินการตามใบอนุญาตดังกล่าวไปก่อนแล้ว จึงเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องเสียหาย
ทั้งนี้ ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า บริษัทไทยทีวี ผู้ฟ้องคดีมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ เนื่องจาก กสทช. ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้ประกาศเชิญชวนไว้ ดังนั้นเมื่อคู่กรณีบอกเลิกสัญญาแล้ว จึงให้ กสทช. คืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ ที่ได้วางไว้คืนแก่บริษัทไทยทีวีด้วย ภายใน 60 วันนับแต่คดีถึงที่สุด ส่วนคำขออื่นศาลให้ยกทั้งหมด
ขณะที่ ประธานกรรมการบริษัทไทยทีวี จำกัด พันธุ์ทิพา ศกุนต์ไชย บอกว่า เนื่องจาก กสทช.ผิดสัญญาในเรื่องการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิทัลตั้งแต่การแจกกล่องทีวีดิจิทัล ไปจนถึงโครงข่ายสัญญาณที่ยังไม่พร้อมให้บริการจริง ดังนั้นศาลจึงมีคำสั่งให้ กสทช.คืนแบงก์การันตีให้บริษัทไทยทีวี งวดที่ 3-6 รวมกว่า1,500 ล้านบาท ส่วนงวดแรก บริษัทไทยทีวีได้จ่ายเองไปแล้วเป็นเงิน 365 ล้านบาท และงวดที่ 2 ราว 288 ล้านบาทแบงก์กรุงเทพเป็นผู้ดำเนินการจ่าย
โดยหลังจากนี้ บริษัทไทยทีวีจะยื่นอุทธรณ์เพิ่มต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีค่าเสียหายที่เกิดขึ้น และค่างวดที่ 2 ที่ได้ยุติการดำเนินการทีวีดิจิทัลแล้ว เห็นว่าไม่ควรจ่าย ซึ่งจะยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วันจากนี้
ทั้งนี้ตนยืนยันว่า "พอใจกับคำพิพากษาของศาลที่ออกมา และมั่นใจว่า กสทช.ทำผิดสัญญาจริงและก่อให้เกิดความเสียหายกับทีวีดิจิทัล"
อ่านคำพิพากษาศาลปกครองกลางคดีไทยทีวีต่อ >>คลิ๊ก<<
อ่านข่าว"ติ๋ม ทีวีพูล" ยิ้มได้! หลังบริษัทไทยทีวี สามารถยกเลิกสัญญาการให้บริการโทรทัศน์ในระบบทีวีดิจิตอลได้