มธ.จัดปาฐกถาพิเศษ ป๋วย อึ๊งภากรณ์

อาจารย์เสกสรรค์ แนะฝ่ายประชาธิปไตย ต้องวิจารณ์ตัวเอง เพราะมีจุดอ่อน ซึ่งควรปฎิรูประบบราชการ ให้ยึดโยงกับประชาชน และกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น

คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดปาฐกถาพิเศษ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ครั้งที่ 16 เรื่อง ประเทศไทยในความคิด ความคิดในประเทศไทย โดยมีการแสดงปาฐกถาพิเศษ จาก อาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ว่า เรามักมองไม่เห็นสิ่งที่ไม่ได้คิด และคนเห็นโลกแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับฐานในตัว และมักจะเชื่อตัวเอง ก็จนนำไปสู่ความขัดแย้ง ขณะเดียวกัน ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทย ตกอยู่ในความขัดแย้ง ระดับที่ไม่มีใครฟังใคร เพราะมีทั้งกลุ่มที่อยากรักษาสถานภาพเดิม กับ กลุ่มที่อยากเปลี่ยนแปลง ที่เห็นความดีงามรอในอนาคต ซึ่งความแตกต่างแบบนี้ ไม่น่าก่อให้เกิดความใหญ่หลวง เหมือนประเทศที่เจริญแล้ว ที่มีหลายฝ่าย แต่อยู่ร่วมกันได้ ภายใต้กฎกติกาเดียวกัน

นอกจากนี้ อาจารย์เสกสรรค์ ย้ำว่า เรื่องการเมือง ไม่ใช่ความคิดเห็นอย่างเดียว เพราะยังมีผลประโยชน์ พร้อมตั้งข้อสังเกตุ ว่า ไทยมีทฤษฎีการเมือง เกิดขึ้นใหม่น้อยมาก ส่วนใหญ่จะนำมาทำซ้ำ จึงทำให้ความขัดแย้งทางความคิด คล้ายความขัดแย้งทางศาสนา ที่ออกไปทางความเชื่อ ความศรัทธา

ขณะเดียวกัน การดึงอำนาจกลับมาสู่มือคนดี มองว่า มีช่องโหว่ เพราะปัญหาคือ คนไม่ดี ในสายตาคนดี อย่างเหตุการณ์ ปี 57 คนดีที่ถูกประดิษฐ์ขึ้น หมายถึงคนที่มีฐานนะดี มีการศึกษาสูง ส่วนคนไม่ดีคือ คนจน และการศึกษาน้อยกว่า ซึ่งคนดี ไม่ได้ตรงข้ามระบอบประชาธิปไตย และส่วนตัวไม่ต่อต้านคนดี แต่ปัญหาใหญ่ประชาธิปไตย ไม่ได้อยู่ที่การล้มกระดาน แต่อยู่ที่การป้องกันตัว
อาจารย์เสกสรรค์ ยังบอกว่า ฝ่ายประชาธิปไตย น่าจะต้องวิจารณ์ตัวเองบ้าง เพราะมีจุดอ่อน และข้อผิดพลาด เนื่องจาก นักการเมือง เป็นผู้เล่นหลัก ควรกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ทำปฎิรูประบบราชการ ให้ยึดโยงประชาชน พร้อมขยายงานรัฐสภา ที่ดึงประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้อง และปัญหาประชาธิปไตยที่ผ่านมา ไม่สนใจประชาชน ที่ไม่ใช่พวกตัวเอง จนทำให้ประชาชนกลุ่มนั้น หันไปสนับสนุนรัฐประหาร