ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่ 1 บ้านแสนสิทธิ ต.แม่พูล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ น.ส.จิติมา สามารถทวีทรัพย์ สาวหล่อเมืองลับแล อายุ 38 ปี ใช้หน้าร้านขายข้าวพันผักของครอบครัว จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์และลงมือทำ "ซููชิลูกทุ่ง" เพื่อส่งลูกค้าที่มีออรเดอร์สั่งล่วงหน้า เป็นอาหารมื้อกลางวัน ด้วยความบรรจง ประณีต จนกลายเป็นอาหารชื่อญี่ปุ่น รสชาติถูกปากคนไทย ที่เกิดจากไอเดียบรรเจิดของ น.ส.จิติมา ใครได้รับประทานแล้วติดใจ แถมราคาไม่แพงเพียงชุดละ 50 บาทบริการส่งถึงที่
น.ส.จิติมา เล่าว่า หลังเรียนจบปริญญาตรี สาขาไฟฟ้าอุตสาหกรรม ก็เข้าทำงานบริษัทเอกชน แต่ด้วยใจรักในการทำอาหาร ชอบเข้าครัวทำกับข้าว คิดวิธีทำเมนูแปลกๆใหม่ๆให้ครอบครัวและเพื่อนรับประทานเป็นประจำ เมื่อค้นพบว่าตัวเองชอบสิ่งไหนมากกว่า จึงตัดสินใจลาออกจากงาน กลับมาอยู่บ้านที่เปิดร้านอาหารพื้นเมืองของลับแล คือ ข้าวพันผัก อยู่ก่อนแล้ว เข้ามาช่วยงานที่ร้าน ด้วยร้านอาหารมีจำนวนมาก และประเภทอาหารก็คล้ายๆกัน และกระแสความนิยมของลูกค้า มักชื่นชอบแนวต่างประเทศตามสมัยนิยม โดยเฉพาะ "ซููชิ" จึงเกิดไอเดียว่าจริงๆแล้ว ข้าว และพืชผัก หรืออาหารไทย ก็สามารถนำมาทำ ซูชิ ได้ จึงเป็นที่มาของการวิธีการทำ "ซููชิลูกทุ่ง"
สำหรับวิธีทำไม่ได้ยุ่งยากประการใดเลย ตื่นเช้า ทำน้ำพริกกะปิรสจัดจ้านเป็นสูตรของตัวเอง ใช้แทน วาซาบิ แล้ว ทำข้าวคลุกกะปิ เพื่อใช้แทนข้าวญี่ปุ่น จากนั้นลงมือทอดผัก และปลาทูนำก้างออก และองค์ประกอบที่สำคัญคือ ทอดไข่ใส่ชะอม ให้เป็นแผ่น แล้วนำผักทอด ปลาทู และข้าวคลุกกะปิ วางบนแผ่นไข่ทอดชะอม ราดด้วยน้ำพริกกะปิ ห่อให้เป็นวงกลม ด้วยแผ่นไม้ไผ่ที่ใช้ห่อชูชิทั่วๆไป ตัดเป็นชิ้นๆ จักวางใส่จาน หรือ กล่อง ตามด้วยผัดสด และชุดน้ำพริกกะปิ เท่านี้ก็รับประทานได้ ในราคาชุดละ 50 บาท
ทั้งนี้ "ซููชิลูกทุ่งเมืองลับแล" น.ส.จิติมา จะขายทางออนไลน์ จำกัดวันละไม่เกิน 20 ชุด เพื่อให้ลูกค้ารับประทานช่วงมื้อกลางวัน หรือจะเก็บไว้ทานมื้อเย็นก็ได้ โดยบริการส่งถึงที่ หลังจากนั้นช่วงบ่ายเตรียมเปิดร้านขายข้าวพันผักของครอบครัว ดังนั้นลูกค้าต่างสั่งจองล่วงหน้า ทำชูชูลูกทุ่ง ขายครึ่งวันมีรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 1,000 บาท และยังมีเวลาช่วยครอบครัว เพียงเพราะไอเดียเก๋ไก๋ ทำให้มีรายได้ทุกวัน ที่สำคัญนำอาหารไทย พืชผักที่มีตามท้องถิ่น มาปรุงแต่ง ให้เกิดความแตกต่าง ก็สร้างงานสร้างรายได้ และไม่มีคู่แข่งทางการตลาดอีกด้วย