svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ดาบตำรวจฉุนถูกเรียกคืนสัมปทานเดินรถชักปืนยิงหัวผู้จัดการ-นายท่าดับ

22 กุมภาพันธ์ 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สมุทรปราการ - ดาบตำรวจประเวศฉุนขาดถูกบริษัทเดินรถเรียกคืนสัมปทาน ชักปืนยิงหัวผู้จัดการและนายท่าดับคาบริษัท

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2561 ร.ต.อ.ตรีเนตร นันทกรพิทักษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีชายถูกยิงเสียชีวิตภายในสำนักงานบริษัท เทียนทองขนส่ง จำกัด เลขที่ 59/1 ซอยนิทราสวรรณ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้ง จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ต่อพงษ์ ตันตระวาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทอง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.ท.ธงรพ แจ้งจิต รอง ผกก.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ด้านข้างเปิดเป็นอู่รถร่วมเอกชน สาย 1141 ที่วิ่งระหว่าง ปากน้ำ-ศรีเอี่ยม ราม 2 เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ที่เกิดเหตุอยู่ภายในสำนักงานชั้นล่างของตัวอาคาร ภายในสำนักงานบริเวณโต๊ะรับแขกได้พบศพนายสิริศักดิ์ เทียนสุวรรณ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็น ผจก.บริษัท เทียนทองขนส่ง จำกัด และเป็นลูกชายนายสมัคร เทียนสุวรรณ อายุ 84 ปี อดีต สจ.สมุทรปราการ นอนหงายอยู่กับพื้น สภาพสวมเสื้อยืด สีน้ำเงิน กางเกงขายาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน ไม่ทราบขนาดเข้าที่ บริเวณศีรษะ 2 นัด

และศพนายวันชัย อรุณสินธารา อายุ 56 ปี ซึ่งทำงานเป็นนายท่าของบริษัทดังกล่าวประจำอยู่ที่ท่ารถสวนหลวง นั่งอยู่ที่บนเก้าอี้ในสภาพเลือดท่วมตัวแดงฉาน สวมเสื้อสีแดง ทับด้วยสูทสีขาว กางเกงขายาวสีดำ พลิกศพ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณศีรษะจำนวน 2 นัดเล่นกัน ส่วนผู้ก่อเหตุทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำอยู่ที่ สน.ประเวศ ชื่อ ด.ต.ดำรงฤทธิ์ จิตรไทย อายุ 51 ปี ผบ.หมู่งานจราจร สน.ประเวศ หลังก่อเหตุได้ขับรถกระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์ทองหลบหนีไป

จากการสอบสวน น.ส.มัลลิกา เทียนสุวรรณ อายุ 42 ปี พี่สาว ผู้ตาย กล่าวว่า บริษัท เทียนทอง ประกอบธุรกิจเดินรถเอกชน สาย ปากน้ำ-ราม 2 มากว่า 40 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามาขอร่วมธุรกิจเดินรถด้วย เมื่อประมาณเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา โดยได้นำรถสองแถวมาร่วมทั้งหมด 20 คัน ซึ่งที่ผ่านมา ด.ต.ดำรงฤทธิ์ ได้ค้างค่าเบอร์รถที่เข้ามาร่วมสัมปทาน ซึ่งจ่ายงวดแรก 10 คัน เป็นเงิน 250,000 บาท ผู้ตายและตนไปทวงถามก็จะถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด กระทั่งวันนี้ตนและผู้ตายเดินทางไปที่ท่ารถราม 2 เพื่อทวงถามและพูดคุยกับ ด.ต.ดำรงฤทธิ์ ว่า ถ้าหากไม่พร้อมทางตนและผู้ตายเข้ามาบริหารเอง พร้อมกับได้ทวงค่าเบอร์รถที่ติดค้างอยู่ ด.ต.ดำรงฤทธิ์ จึงนัดหมายให้มาพูดคุยกันที่บริษัท

"จนกระทั่ง 14.30 น. ด.ต.ดำรงฤทธิ์ ผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาที่สำนักงานระหว่างที่พูดคุยกัน ก็ยังปกติดีทุกอย่าง กระทั่งช่วง 17.00 น. จึงได้ขอตัวกลับบ้านก่อน โดยมีน้องชาย และนายท่า นั่งพูดคุยอยู่กับผู้ก่อเหตุ 3 คน เวลาผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คนงานได้โทรมาบอกว่า ด.ต.ดำรงฤทธิ์ ใช้อาวุธยิงน้องชายและนายท่าเสียชีวิต ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไป จึงได้รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ" น.ส.มัลลิกา ระบุ

ขณะเดี่ยวกันในเวลา 19.00 น. ทราบว่า ด.ต.ดำรงฤทธิ์ ผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะเดินทางไปมอบตัว ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยอาวุธปืนขนาดขนาด ออโตเมติก 380 ที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งขณะนี้ พ.ต.อ.ต่อพงษ์ ตันตระวาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำ ด.ต.ดำรงฤทธิ์ ผู้ก่อเหตุที่เข้ามอบตัวในครั้งอยู่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีนายตำรวจทานใดออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับดาบตำรวจ ที่ก่อเหตุแต่อย่างไร

ด้าน พล.ต.ต.ธรรมนูญ กล่าวว่า สำหรับปมก่อเหตุนั้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุได้เข้ามาเจรจาเรื่องธุรกิจเดินรถเอกชน กับ ผู้ตายทั้งสองคนที่ออฟฟิศ และผู้ก่อเหตุได้ค้างเงินร่วมสัมปทาน กับ บริษัท ซึ่งระหว่างเจรจา น่าจะตกลงกันไม่ได้ ก่อนที่ ด.ต.ดำรงฤทธิ์ จะลงมือก่อเหตุ ดังกล่าว

logoline