นายสุรพงศ์ วรเนติโพธิ์ เปิดเผยกับทีมเนชั่นระวังภัยว่า ปัญหาอาคารพาณิชย์เก่า 2 คูหา 3 ชั้นครึ่ง ของตนเองโครงสร้างเกิดวิบัติเสียหาย จนไม่สามารถซ่อมแซมได้ เช่นฐานรากและพื้นทรุดตัวอย่างเห็นได้ชัด ผนังของอาคารเกิดรอยร้าวจนเอียงไปด้านหนึ่ง เคยร้องเรียนไปที่สำนักงานเขตพระโขนง เพื่อให้เข้ามาแก้ไข ทางสำนักงานเขตพระโขนง ได้แจ้งว่า ให้นายสุรพงศ์ฯ ซ่อมแซมและปรับปรุงเอง นายสุรพงศ์ฯ จึงไปว่าจ้างผู้รับเหมามาประเมินเพื่อจะทำการซ่อมแซมแก้ไข ปรากฎว่า ถูกผู้รับเหมาปฎิเสธทั้งหมด เนื่องจากโครงสร้างของอาคารต่อเนื่องกันกับอาคารข้างเคียง เกรงว่าจะเกิดความเสียหายกับผู้อื่น และมีอันตรายถึงกับชีวิตของคนงาน
ปี 2557 นายสุรพงศ์ฯ ได้ว่าจ้างวิศวกรมาสำรวจอาคาร โดยเสียค่าใช้จ่ายเอง วิศวกรได้ออกหนังสือรับรองว่า โครงสร้างของอาคารหลังนี้วิบัติไปหมดแล้ว คือไม่สามารถซ่อมแซมหรือแก้ไขได้ นายสุรพงศ์ฯ จึงนำหนังสือรับรองไปยื่นที่สำนักงานเขตพระโขนง จากนั้นสำนักงานเขตพระโขนง ได้มีคำสั่งให้รื้อถอนอาคารภายใน 30 วัน
ต่อมาวันที่ 24 มกราคม 2557 นายสุรพงศ์ฯ ได้ทำหนังสือไปถึงสำนักงานเขตพระโขนงอีก มีรายละเอียดว่า ไม่สามารถรื้อถอนเองได้ เนื่องจากเป็นโครงสร้างต่อเนื่อง แม้ว่านายสุรพงศ์ฯ จะยินดีจ่ายค่ารื้อถอนให้กับสำนักงานเขตพระโขนง แต่เรื่องก็เงียบมาถึงทุกวันนี้
ล่าสุดนายสุรพงศ์ฯ บอกต่อว่า ได้ไปร้องเรียนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2561 ร้องซ้ำเป็นครั้งที่ 2 กรณีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเขตพระโขนง ตกลงว่าจะเข้ามารื้อถอนภายใน 1 ปี ตามที่นายสุรพงศ์ฯ มีหนังสือไปถึงผู้ว่าฯ กทม. ลงวันที่ 5 กันยายน 2559 ทางสำนักงานเขตพระโขนง แจ้งว่าต้องรองบประมาณ
ทุกวันนี้ยังมีเศษปูนตกลงมาตลอด นายสุรพงศ์ฯ เ กรงว่าจะโดนคนที่เดินผ่านไปมาหรือคนขับรถผ่าน แล้วบาดเจ็บหรือเสียชีวิต นายสุรพงศ์ฯ จะต้องได้รับโทษฯ ทั้งที่ไม่มีเจตนาจะให้เกิดขึ้น