เครือข่ายปกป้องสองฝั่งทะเลกระบี่-เทพา ยุติโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ปักหลักชุมนุมอยู่หน้าองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ยอมยุติการชุมนุม ไม่เคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันรัฐบาล ภายหลัง นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มาเจรจากับผู้ชุมนุมด้วยตัวเอง โดยใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง โดยได้เชิญ แกนนำพร้อมตัวแทน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ไปหารือร่วมกันภายในรถตู้ประมาณ 15 นาที ก่อนลงนามความร่วมมือ หรือ MOU จนเป็นที่มาของการยุติการชุมนุม
สำหรับบันทึกข้อตกลง มีสาระสำคัญ คือ
1.ให้ กฟผ. ถอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาและโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ฉบับใหม่ ภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันลงนาม และให้ กฟผ. ส่งหนังสือแจ้งการถอนรายงานไปยังเครือข่าย
2.ให้กระทรวงพลังงานจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA เพื่อศึกษาว่าพื้นที่จังหวัดกระบี่และ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา มีความเหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่ โดยต้องจัดทำโดยนักวิชาการที่มีความเป็นกลางที่ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับร่วมกัน หากผลการศึกษาที่คาดว่าโครงการฟ้าถ่านหินทั้ง 2 พื้นที่ไม่เหมาะสม กฟผ. จะต้องยุติการดำเนินการ นับตั้งแต่วันลงนาม ทั้งนี้การจัดทำรายงานจะต้องเสร็จสิ้นภายใน 9 เดือน นับแต่วันลงนาม
3.หากผลการศึกษา SEA กระทบเชิงยุทธศาสตร์ ว่าพื้นที่มีความเหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งขั้นตอนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ จะต้องกระทำโดยคนกลางที่ยอมรับร่วมกัน
4.ให้คดีความระหว่าง กฟผ. และเครือข่ายเลิกแล้วต่อกัน
อย่างไรก็ตาม หลังผู้ชุมนุมยุติการชุมนุม ก็ได้เก็บข้าวของเตรียมเดินทางกลับทันที หลังจากปักหลักชุมนุมต่อเนื่องมากว่า 1 สัปดาห์