ความเสี่ยงขาลงของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่อาจจะซบเซากลายเป็นภาวะที่เป็น "ตลาดหมี"

หลังจากที่กองทุนบำเหน็จบำนาญขนาดใหญ่มีการเทขายบอนด์รัฐบาลสหรัฐอย่างหนักตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมจนส่งผลให้บอนด์ยีลด์ 10 ปีพุ่งทะลุ 2.8% ที่ระดับ 2.88% ในวันจันทร์อละวันพฤหัสฯ สัปดาห์ที่แล้ว จนทำให้มีการปรับฐานราคาหุ้น (Correction) ที่ดิ่งตัวลงอย่างรวดเร็ว



1.  ตลาดวอลล์สตรีทดิ่งลงมากกว่า 10% นับจากช่วงปลายเดือนมกราคมปีนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับฐานราคาหุ้น (Correction) ที่รุนแรงที่สุดในช่วงประวัติศาสตร์ จนทำให้เกิดความเสี่ยงขาลงของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่อาจจะซบเซากลายเป็นภาวะที่เป็น "ตลาดหมี" หากว่าดัชนีราคาหุ้นวอลล์สตรีทมีการทรุดตัวลงไปอีก 10%

ภาวะที่เป็น "ตลาดหมี" จะกดดันให้กองทุนบำเหน็จบำนาญใหญ่ที่สุดของสหรัฐอาจต้องขายหุ้นในพอร์ตออกมาในขณะที่ยังพอมีกำไรจากผลตอบแทนหุ้นที่ยังอยู่สูงกว่าตลาดบอนด์อยู่บ้าง เพื่อสร้างสมดุลของพอร์ตลงทุนในวงเงินสูงถึง 100,000 ล้านดอลลาร์


2.  ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า การอทขายหุ้นของกองทุนบำเหน็จบำนาญใหญ่ที่สุดของสหรัฐิาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เนื่องจากยังมีผลตอบแทนการลงทุนในตลาดหุ้นที่สูงกว่าการลงทุนในตลาดบอนด์สหรัฐมากกว่า 8% หลังจากที่มีการขายบอนด์ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 

แต่การทิ้งหุ้นของกองทุนบำเหน็จบำนาญขนาดใหญ่ที่จะเกิดขึ้น หลังจากที่มีการเทขายบอนด์อย่างหนักในช่วงทุนสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ในที่สุดกองทุนบำเหน็จบำนาญขนาดใหญ่ก็จะโยกเงินกลับเข้าซื้อบอนด์รัฐบาลสหรัฐรอบใหม่ เพื่อรักษาความสมดุลของพอร์ตลงทุน จากผู้ขายบอนด์มาเป็นผู้ซื้อบอนด์


3.  ในขณะที่ส่งผลให้อัตราผลตอบแมนบอนด์รัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) อายุ 10 ปีพุ่งทะลุแตะ 2.8% ที่ระดับ 2.88% ในวันจันทร์และวันพฤหัสฯ สัปดาห์ที่แล้ว จนทำให้มีการปรับฐานราคาหุ้น (Correction) ที่ดิ่งตัวลงอย่างรวดเร็วดังกล่าว โดยเช้าวันนี้บอนด์ยีลด์ได้เคลื่อนไหวระหว่าง 2.829-2.857%

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารกองทุนตลาดบอนด์ยังเชื่อว่า อัตราบอนด์ยีลด์ 10 ปีมีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปอตะที่ 2.95-3.25% เนื่องจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อในปีนี้


4.   ขณะที่ดาวโจนส์ปิดที่ 24,190 เพิ่มขึ้น 330.44 จุด หรือ 1.38% หลังจากที่ดาวโจนส์ปรับตัวลง 5.2%  ในรอบสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากมีแรงช้อนซื้อหุ้นเข้ามาเนื่องจากภาวะที่เกิด Government Shutdown ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ ได้ยุติลง เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ด้วยคะแนนเสียง 240-186 

ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,874 เพิ่มขึ้น  97.33 จุด หรือ 1.44% หลังปรับตัวลง 5.1% ในสัปดาห์ก่อน และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,619 เพิ่มขึ้น 38.55 จุด หรือ 1.49% หลังจากที่มีการปรับตัวลง 5.2%


5.   สำหรับตลาดหุ้นเอเชียมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันจันทร์ ตามทิศทางของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ โดยที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุด ขณะที่ดัชนี HSI ฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 29,713 เพิ่มขึ้น 205.66 จุด หรือ 0.7% แต่ SSE Composit ของตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,128 ลดลง 1.48 จุด หรือลดลง 0.05% 

ส่วนดัชนี TAIEX ไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,429 เพิ่มขึ้น 57.34 จุด หรือ 0.55% KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,380 เพิ่มขึ้น 16.72 จุด หรือ 0.71% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,384 เพิ่มขึ้น 7.74 จุด หรือ 0.23% รวมทั้งตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 1,791 เพิ่มขึ้น 5.38 จุด หรือ 0.3%