ผมเริ่มบันทึกนี้ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 วันเดียวกับที่เปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัทอิตาเลี่ยนไทย พรานป่านักล่าแห่งทุ่งใหญ่นเรศวร โดนจับกุม โดยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก วิเชียร ชิณวงษ์
มันเริ่มอย่างนี้ครับ ชุดลาดตระเวณใช้จยย.จากหน่วยมหาราช ซึ่งอยู่บนสุด ขับลงมาตามเส้นทางและในเวลา 13.00 น. ได้พบกลุ่มคนชาย3หญิง1พากันกางเต้นท์อยู่ติดถนน ติดลำห้วยปะชิ จึงเข้าไปสอบถามเนื่องจากคนทั้ง4มีพิรุธ สื่อพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสัตว์ป่า เนื่องจากจุดพักแรมเป็นจุดที่มีสัตว์ป่าชุกชุม เป็นพื้นที่เปราะบางทางระบบนิเวศน์ อีกทั้งคนในกลุ่มมีลักษณะมึนเมา เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปว่าเป็นจุดห้ามตั้งเต้นท์ค้างแรม ตักเตือนเสร็จจึงขับจยย.มาซุ่มดูพฤติกรรม พร้อมแจ้งหัวหน้าวิเชียร ชิณวงษ์ ทราบ และ 14.00 น.ชุดซุ่มดูได้ยินเสียงปืน 1 นัดดังมาจากจุดตั้งแคมป์ หัวหน้าวิเชียร สั่งให้ชุดลาดตระเวณอีกชุดไปตรวจดู ซึ่งไปถึง เวลา 16.00 น. ก็พบว่า มีคนอยู่ ที่แคมป์ 3 คน คือ 1.เปรมชัย กรรณสูต คนกรุงเทพฯ 2.ยงค์ โตคเครือ คนราชบุรี 3.หญิง ชื่อ นที เรียมแสง เป็นคนโคราช เมื่อค้นในแคมป์ พบเบ็ดธง เบ็ดตกปลา ซุกซ่อนในลักษณะอำพราง หัวหน้าชุดจึงแจ้งระเบียบอีกครั้ง ว่าห้ามกางเต้นท์นอกพื้นที่กำหนด
ตามบันทึกลับ ต่อไปนะครับ เมื่อเจ้าหน้าที่แจ้งห้ามกางเต้นท์ เปรมชัย กรรณสูต หัวหน้าคนกลุ่มนี้ ได้ต่อรองขอพักจุดเดิม พร้อมบอกว่าจะไปขออนุญาตกับหัวหน้าวิเชียร ด้วยตัวเอง แต่ขณะนั้น ชุดเจ้าหน้าที่สังเกตว่ามีคนหายไป 1 คน ผิดวิสัย จึงสั่งการปิดล้อมตรวจค้นอย่างละเอียด จึงมีเสียงปืนดังอีก 1 นัด จากนั้น 10 นาที นายเปรมชัย ได้ขับรถแลนด์ครุยส์เซอร์ ไปพบหัวหน้า วิเชียร
ซึ่งในเหตุการณ์นี้เอง ผมได้คุยกับเจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่ง ขณะที่เธอทำงานที่โรงอาหาร เห็นนายเปรมชัย มาคุยกับหัวหน้าวิเชียร
บันทึกลับฯ พาย้อนกลับไปที่เสียงปืน 1 นัดล่าสุด เจ้าหน้าที่ตามเสียงปืนไป จนเมื่อเวลา 16.30 น.พบชายคนหนึ่ง ในมือถือปืนลูกซองยาวปะทับไหล่พร้อมยิง จึงร้องห้ามและเข้าคุมตัว ทราบต่อมาว่า ชื่อ ธานี ทุมมาศ เป็นคนกาญจนบุรี จึงคุมตัวมาที่แคมป์ เจ้าหน้าที่อีกชุดย้อนไปตามเส้นทางการล่าสัตว์ของธานี จนไปพบลำห้วยปะชิ จุดที่แห้ง บนถนนพบกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 ยี่ห้อ BELLER&BELOT จำนวน 3 ปลอก เพิ่งยิงใหม่ ห่างจากจุดพบปลอกกระสุน ไป 15-19 เมตร ในลำห้วยที่แห้งพบซากเครื่องในสัตว์ป่าที่เพิ่งควักออกจากสัตว์ยังใหม่สด ภายในบริเวณเดียวกัน พบเกลือถุงตราทหารอากาศ 2 ถุงซุกซ่อนอยู่ และยังพบขนสัตว์ป่าสีเทาดำ 1 กระจุก พบกองเลือด ติดที่ก้อนหิน
กระทั่ง 18.00 น. สำหรับป่าทึบนั้นถือว่า เริ่มมืดแล้ว หัวหน้าวิเชียร มาถึงจุดตั้งแคมป์ จึงเข้าตรวจแคมป์อย่างละเอียด และเริ่มค้นตัว นายธานี รวมถึงยึดปืนยาว .22 ยี่ห้อ CZ 452 ZKM SCOUT CZ-USA, Cansas city, US พร้อมกล้องเล็งเป้า สภาพพร้อมยิง ซึ่งเป็นปืนมีหมายเลยทะเบียน ความยาวละกล้อง 40 เซนติเมตร ความยาวทั้งหมด 83 เซนติเมตร + กล่องเก็บกระสุน 106 นัด + .22อีก2นัดพบในกระเป๋ากางเกง +มีดปลายแหลม เจ้าหน้าที่ค้นทั่วแคมป์พบอุปกรณ์ทำครัว พบถังแช่เนื้อสด เปิดดูมีซากไก่ฟ้าหลังเทา มีแผลถูกยิง 6 ลูก ฝังใน 1 ลูก พบเนื้อเก้ง ประมาณ 1 กก. พบหม้อแกงปรุงอาหาร จากสัตว์ป่า
ห่างเต้นท์ไป 5 เมตร พบปืนยาว 2 กระบอกใช้วัชพืชอำพรางสายตา เป็นปืนยาวไรเฟิล ยี่ห้อ STEYR-MENNLICHLR-M ลำกล้องยาว 60 ซม. ความยาวทั้งหมด 120 ซม. กระสุนยี่ห้อ WINCHESTER 30-06 SPPG บรรจุในปืนพร้อมใช้งาน และกระบอกที่ 2 ปืนยาวลูกซองแฝด เบอร์ 20 ยี่ห้อ AYA-AUGIRRE&ALANZABAL Made in spain ความยาวลำกล้อง 75 ซม.ความยาวทั้งหมด 115 ซม. ในรังเพลิง บรรจุกระสุนเบอร์ 20 ยี่ห้อ BELLER&BELOT ห้างไปทางทิศเหนือ 15 เมตร เจอซองปืนซุกในพงหญ้า
เนื่องจากเป็นยามวิกาล ล่วงเลยถึงเวลา 01.30 ของวันที่ 5 ก.พ. หัวหน้าวิเชียร สั่งห้ามคนอื่น หรือเจ้าหน้าที่เข้าไปในจุดตั้งแคมป์ ให้เผ้าไว้เท่านั้นแล้วนำตัวคนทั้ง 4 พร้อม รถยนต์ อาวุธปืน ซากสัตว์ป่า ลงมาที่สำนักงานเขตฯ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 23 กม. ในเวลา 02.30 น. และหัวหน้าวิเชียร และเจ้าหน้าที่ได้ย้อนกลับไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกในเวลาเช้า วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561
เมื่อตรวจโดยละเอียดจึงพบหนังเสือดำ มีการถนอมซากด้วยการทาด้วยเกลือ วัดความยาวจากหัวถึงสะโพก 83 ซม. จากหัวถึงหาง 148 ซม. พบกะโหลกเสือดำ 1 หัว พบซากเสือดำในถุงดำ น้ำหนักไม่รวมหนังเสือ 10.6 กก. พบกระเป๋าซ่อนในพงหญ้า ภายในมีกระสุนร่วม 100 นัด และน้ำมันล้างปืน ไฟฉาย ช้อนส้อมพับได้ มีดพับได้
จากหลักฐานทั้งหมด เปรมชัย แสดงให้เห็นว่า เขาคือนักล่า ไม่ใช่นักอนุรักษ์