ดาวโจนส์ดีดตัวพลิกฟื้น 567 จุด ท่ามกลางสภาพคล่องของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่หดตัวลง 50%

ขณะที่ดัชนีวัดมาตรฐานความเสี่ยงเนื่องจากความผันผวนของในตลาดหุ้น หรือ CBOE VIX Index พุ่งขึ้นเป็นเท่าตัวในวันเดียว จากเปิดตลาดที่ระดับ 19 พุ่งขึ้นเฉียดระดับ 37 เมื่อวันอังคาร ส่งผลให้นักลงทุนจับตามองมูลค่าของราคาหุ้นในตลาดสอดคล้องกับปัจจัยที่แท้จริงของตลาดหรือไม่

ขณะที่หุ้นเอเชียพุ่งขึ้น 1-2% ในช่วงเช้าวันพุธ ขานรับการฟื้นตัวของดาวโจนส์ โดยนิคเคอิปิดช่วงเช้าพุ่งขึ้น 660.32 จุด หรือ 3.06% ส่วนหั่งเส็งฮ่องกงเปิดพุ่ง 782.93 จุดหรือ 2.56% ก่อนชะลอตัวปิดเช้าพุ่ง 386.29 จุด หรือ 1.26%


1. ดาวโจนส์ดีดตัวพลิกฟื้น 567 จุดช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา หลังการปรับฐานของหุ้นวอลล์สตรีทเกิดขึ้น 2 วันต่อเนื่องดิ่งลงถึง 10% จากแรงเทขายของนักลงทุนอย่างหนัก เริ่มส่งผลต่อสภาพคล่องของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่หดตัวลงกว่าครึ่งหนึ่ง เนื่องจากการขาดทุนจากราคาหุ้นที่ดิ่งตัวลง

ทั้งนี้ มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (Net Asset Value) หรือ NAV ของบรรดากองทุนเฮดจ์ฟันด์ได้ปรับตัวลดลงมากกว่า 50% จากภาวะการขาดทุนในราคาหุ้นที่ตกต่ำทั้งกระดาน



2. ถึงแม้ว่า ดาวโจนส์ได้ดีดตัวกลับมาเพิ่มขึ้น 567.02 จุด หรือพุ่งขึ้น 2.33% ในวันอังคารมาปิดที่ 24,912 เป็นการดีดกลับเพียงครึ่งทางจากดัชนีหุ้นที่ตกต่ำลงไป ท่ามกลางทิศทางของดาวโจนส์ที่มีความผันผวนอย่างรุนแรง หลังจากที่ดาวโจนส์ดิ่งลง 1,600 จุดหรือร่วงลงมากกว่า 6% ก่อนปืดตลาดดิ่งตัวลง 1,175 จุด หรือลดลง 4.5% ในวันจันทร์ทมิฬที่ 5 กุมภาพันธ์

โดยที่การเทขายอย่างหนักยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องจนถึงช่วงแรกของการเปิดตลาดเมื่อวันอังคารร่วงลงถึง 850 จุด จนกระทั่งมีการพลิกฟึ้นในแดนบวกช่วงท้ายตลาดของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและสินค้าผู้บริโภค

ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,695 เพิ่มขึ้น 46.20 จุด หรือ 1.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,115 พุ่งขึ้น 148.36 จุด หรือ 2.13% โดยที่นักลงทุนยังจับตาการโหวตร่างงบประมาณของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Government Shutdown



3. ขณะเดียวกันดัชนีวัดมาตรฐานความเสี่ยงเนื่องจากความผันผวนของในตลาดหุ้น หรือ CBOE VIX Index พุ่งขึ้นเป็นเท่าตัวในวันเดียว จากเปิดตลาดที่ระดับ 19 พุ่งขึ้นเฉียดระดับ 37 ในวันอังคาร ส่งผลให้นักลงทุนกันมาให้ความสนใจต่อมูลค่าของราคาหุ้นในตลาดสอดคล้องกับปัจจัยที่แท้จริงของตลาดหรือไม่

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมีการปรับฐานที่ดิ่งลงถึง 10% จากจุดพีคที่ 26,612 ในเดือนมกราคม แต่ยังคงให้อัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 20% นับจากการเลือดตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว



4. อย่างไรก็ตาม สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้ความเชื่อมั่นกับปัจจัยพื้นฐาน้ทางเศรษฐกิจของสหรัฐว่ายังคงแข็งแกร่ง แม้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงหนัก จนเป็นเหตุให้ตลาดหุ้นทั่วโลกถูกกระหน่ำขายอย่างหนักด้วยนั้น

รัฐมนตรีคลังสหรัฐได้กล่าวชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเกี่ยวกับตลาดหุ้นสหรัฐที่ทรุดตัวลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์ ว่า ไม่ได้วิตกกังวลมากนักเกี่ยวกับความผันผวนที่เกิดขึ้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งในขณะนี้พบว่ายังปกติดีอยู่ โดยที่ได้สื่อสารกับนักลงทุนในตลาดเมื่อเช้าวานนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ภาวะการซื้อขายหุ้นในตลาดเป็นไปอย่างเรียบร้อย และไม่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบ



5. ขณะที่หุ้นเอเชียพุ่งขึ้น 1-2% ในช่วงเช้าวันพุธ ขานรับการฟื้นตัวของดาวโจนส์ โดยนิคเคอิปิดช่วงเช้าพุ่งขึ้น 660.32 จุด หรือ 3.06% ที่ระดับ 22,270 ส่วนหั่งเส็งฮ่องกงเปิดพุ่ง 782.93 จุดหรือ 2.56% แตะที่ระดับ 31,378 ก่อนชะลอตัวปิดเช้าพุ่ง 386.29 จุด หรือ 1.26% ปิดภาคเช้าที่ 30,981

ทั้งนี้ การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่นและตลาดหุ้นฮ่องกงในวันนี้ มาได้เพียงครึ่งทางจากที่ได้ดิ่งตัวลงเมื่อวันอังคาร เนื่องจากการสั่นสะเทือนของ Black Monday ที่เกิดจากการตกต่ำมากที่สุดวันหนึ่งของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท