ในเดือนกุมภาพันธ์ 2005 ตอนนั้นเค้ามีอายุ 16 ปีและได้เปิดตัวกับทีม Cobreloa ซึ่งเป็นสโมสรทางตอนเหนือของชิลีใกล้กับ Chuquicamata เหมืองทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก และ Nelson Acosta เคยให้สัมภาษณ์กับ Telegraph ว่า "โดยปกติแล้วเด็กทั่วไปจะมีบางอย่างที่ขาดไปไม่ว่าจะเป็นทักษะ หรือวิสัยทัศน์แต่นั้นไม่ใช่กับ Sanchez เค้ามีทุกอย่างอยู่ในตัว"
แต่หลังจากที่ Neymar กองหน้าจากบลาซิลเปิดตัวในปี 2013/2014 เค้าได้ตัดสินใจทดสอบตัวเองกับ Premier League โดยเข้ามาอยู่กับ Arsenal ด้วยราคา 30 ล้านปอนด์ และเค้าก็ได้แชมป์แรกกับต้นสังกัดด้วยการเอาชนะ Manchester City ด้วยสกอร์ 3-0 ในรายการ Community Shield ที่ Wembley ในปี 2014 และเอาชนะ Aston Villa ด้วยสกอร์ 4-0 ในรายการ FA Cup เค้าเปิดตัวกับต้นสังกัดใหม่ได้อย่างน่าประทับใจมากและได้รับคำชื่นชมมากมาย และถึงแม้ว่าเค้าจะมีช่วงเวลาที่ได้รับบาดเจ็บแต่ก็ยังสามารถทำได้ถึง 17 ประตูในปี 2015/2016 และได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีจาก Arsenal ด้วยการทำ 25 ประตูจากทุกรายการที่ได้ลงเล่น
ต่อมาเค้าได้รับหน้าที่ในตำแหน่งหน้าเป้าก่อนจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการทำ 30 ประตูในฤดูกาลเดียวและยังทำ 17 assists ในทุกรายการที่ได้ลง เค้าได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าเค้าคือกำลังหลักของทีมด้วยการพาทีมเอาชนะ Manchester City ในรอบ semi-final ก่อนจะเอาชนะ Chelsea 2-1 หลังจากลงสนามไปแล้ว 229 วินาทีในรายการ FA Cup
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าเป็นนักเตะระดับโลกอย่างแท้จริงไม่ใช่แค่ระดับสโมสรแต่นั้นรวมไปถึงในทีมชาติด้วยแต่น่าเสียดายที่เค้าไม่ประสบความสำเร็จรายการ World Cup ที่รัสเซียจากการตกรอบ และได้รับบาดเจ็บจากรายการ Confederation Cup ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เค้าเริ่มต้นฤดูกาล 2017/2018 ด้วยการออกกำลังกายอย่างเต็มที่และสม่ำเสมอและกลับมาด้วยการเป็นดาวซัลโวต่อเนื่องด้วยการทำ 8 ประตูก่อนวันคริสต์มาส
เค้าได้ให้สัมภาษณ์กับ MUTV ว่า
"สมัยผมยังเป็นเด็กผมพูดเสมอว่าการเล่นที่ united คือความฝันของผม และครั้งนึงผมเคยบอกกับ Sir Alex Ferguson แบบนั้น ... แต่ตอนนี้ผมไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้นอีกต่อไปแล้วเพราะผมได้อยู่ที่นี่แล้ว"