สอบโจรอุ้มรีดชาวอินเดีย ที่แท้แค่ "พ่อค้าขายกระเป๋า"

ล่าสุด เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 19 ม.ค.61 พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันนำกำลังตำรวจ บก.สส. ตำรวจ กก.สส.บก.น.3 และตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ร่วมกันจับกุมตัวนายพีรพัฒน์ บุญคง อายุ 31 ปี ผู้ต้องหา อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่1 ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี เลขที่54/2561 ลงวันที่ 19 ม.ค.61 ข้อหาชิงทรัพย์โดยแต่งเครื่องแบบทหารหรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหาร โดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด , มีอาวุธปืนไว้ในความครอบคครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพกอาวุธปืนไปในที่สาธารณะไม่มีเหตุอันควร ,ใช้บัตรอิเล็กทรอนิคขิงผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่จะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น
พร้อมของกลางเครื่องแบบทหาร(ชุดลายพราง) เสื้อเกราะอ่อนกันกระสุน และรถ จยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีดำที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องพักใกล้ รพ.ศิริราช ย่านบางกอกน้อย กทม. เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาจากการสอบสวนผู้ต้องหา เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุรีดทรัพย์นายรามา ตามที่ปรากฏเป็นข่าวจริง นอกจากนี้ยังอ้างว่า เคยรับราชการเป็นทหารยศสิบเอก หน่วยรบพิเศษ จ.ลพบุรี แต่ถูกให้ออกจากราชการไปแล้วจากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุคดีรีดทรัพย์ 14 คดี ตั้งแต่ปี57 ในพื้นที่ บชน. ภาค1 ภาค 7 อาทิ จังหวัดสมุทรปราการ จ.สมุทรสาคร จ.นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร โดยมักจะใช้วิธีสวมชุดทหารอ้างตัวว่ามาจับกุมแรงงานต่างด้าวที่ปล่อยเงินกู้ และผู้ที่เปิดโต๊ะพนันบอล-โต๊ะสนุ๊ก อีกทั้งเคยก่อเหตุเข้าไปข่มขู่โต๊ะพนันบอลที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยใช้กลอุบายคำพูดว่า "นี่ทหาร หยุด หมอบลงให้หมด" จนทำให้คนในโต๊ะบอลที่มีจำนวน 30 คน ยังต้องหมอบลงหมด เนื่องจากหวาดกลัวส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีผู้เสียหายที่มาลงประจำวันที่ สน.มีนบุรี ไว้จำนวน 4 คดี ซึ่งน่าเชื่อว่าจะมีอีกหลายคดีแต่ไม่กล้ามาแจ้งความ อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างควบคุมตัวสอบสวนที่ บก.น.3 เบื้องต้นแจ้งข้อหาและส่งตัวให้ พ.ต.ท.โอสถ ผ่าโผน สว.(สอบสวน) สน.มีนบุรี ดำเนินคดีต่อไปเบื้องต้น ผู้ต้องหาระบุว่า ไม่เคยแอบอ้างว่าเป็นทหารรักษาการณ์หน้าบ้านพล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี แต่อย่างใด