ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ม.41 กับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ม.119 จึงนัดพิจารณาคดี พร้อมอ่านคำตัดสิน
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตอธิบดีดีเอสไอ ที่พ้นจากราชการ ในฐานะจำเลย ในคดีที่ ปปช.ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยข้อกล่าวหา นายธาริต ฐานจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบการทุจริตฯ มาตรา 119 หลัง ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ ชี้มูลความผิดกรณีร่ำรวยผิดปกติเมื่อปี 2559
ซึ่ง นายธาริต ไม่ได้แสดงรายการทรัพย์สินที่เป็นเงินฝากธนาคาร 4 บัญชี รวมกว่า 4 ล้านบาท เงินลงทุนในหุ่นบริษัท 2 แห่ง มูลค่ากว่า 6 ล้าน สิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน 2 แปลง หรือ 2 ไร่ 50 ตารางเมตร ที่ จ.นครราชสีมา ของนายธาริตและนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรส มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เงินฝากธนาคารอีก 2 บัญชี ของนางวรรษมล คู่สมรส และหลานชาย มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท
โดยนายธาริต ให้การรับสารภาพ เป็นลายลักษณ์อักษรศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายธาริต ไม่แสดงรายการทรัพย์สินในการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบในขณะที่ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นการปกปิดไม่แสดงรายการทรัพย์สินของตนเอง และคู่สมรส เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ ปปช.ตรวจสอบ จึงมีเหตุเชื่อได้ว่า นายธาริต มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินและหนี้สิน
องคณะผู้พิพากมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การกระทำของนายธาริต เป็นการจงใจยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ม.41 กับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ม.119 จึงพิพากษาให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 10000 บาท โดยนายธาริตให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท ทั้งนี้ไม่ปรากฎว่า นายธาริเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษ 2 ปี