svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

Season Change รวมพลคน "ใจเปลี่ยน"

19 มกราคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อย่างที่รู้กัน อันเนื่องมาจากปมปัญหาร้อนๆ จนข้อมือไหม้ กับนาฬิกาเรือนหรูจำนวนมาก ที่ผู้สวมใส่ไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจน "อย่างทันท่วงที!"

          "ก็เคยสัญญา เป็นมั่นเป็นหมาย" "เวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน"

          ใครบางคนนึกถึงเพลง "จิ๊กโก๋อกหัก" เมื่อข่าวคราวของ "คนรัก" มาพลิกเปลี่ยน ผันแปรเป็นคน "เคย" รัก

          เวลานี้ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ถึงมีนาฬิกาอีกกี่เรือน ก็คงช่วยให้วันเวลาแต่เก่าก่อนหวนคืนกลับมาไม่ได้!

          อย่างที่รู้กัน อันเนื่องมาจากปมปัญหาร้อนๆ จนข้อมือไหม้ กับนาฬิกาเรือนหรูจำนวนมาก ที่ผู้สวมใส่ไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดจน "อย่างทันท่วงที!" ได้ว่ามาจากไหน อะไรยังไง กระทั่งมาบอกว่า "นาฬิกาเพื่อน"

          นี่แหละเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายฝ่าย หลายคน ตบเท้าออกมาขอให้ "บิ๊กป้อม" แสดงสปิริตอะไรบางอย่าง ที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "ลาออก" !!

          โดยเฉพาะ เมื่อคำขอนั้นออกจากปากคนที่เคยเหมือนจะยืนเคียงข้างการทำงานของ คสช.มาตลอด และให้กำลังใจรัฐบาลเรื่อยมา

          คนแรกที่ต้องขอเอ่ยถึง จะเป็นใครไปได้ ก็เป็น อดีตส.ว. กทม. ที่ออกมาเสนอว่า หัวหน้าคสช. ควรใช้มาตรา 44  สั่งพักงาน "บิ๊กป้อม" ไปก่อนได้เลย ระหว่างตรวจสอบกรณีนาฬิกาหรูและแหวนเพชร เหมือนกรณีที่เคยใช้มาตรา 44 โยกย้ายข้าราชการหลายร้อยคนในช่วงที่ผ่านมา

          นั่นคือ รสนา โตสิตระกูล ที่โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก วันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า

          "ระยะทางพิสูจน์ม้า นาฬิกาพิสูจน์คนและกลไกรัฐ"

          "หัวหน้าคสช.เคยชี้แจงว่า ถ้าเรื่องไหนสำคัญมากๆ หรือเป็นปัญหาใหญ่ จำเป็นต้องรื้อตำแหน่งระดับสูงให้ขยับออกมาก่อน เพื่อให้เกิดการสอบสวน หาพยานหลักฐานในเชิงประจักษ์ให้ได้ แต่ถ้าไม่ผิดก็กลับมาที่เดิม"

          "จึงคาดหวังว่าพลเอกประยุทธ์ จะใช้มาตรฐานเดียวกันนี้ กับกรณีของพลเอกประวิตร เพื่อสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ พร้อมย้ำว่า กรณีนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ว่าทั้งคนและกลไกภาครัฐในการปราบโกง จะเป็นกลไกที่ได้รับความเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน"

          นี่ไม่ได้ไล่นะ แค่ให้ "พักงาน" จนมาเจอคนที่สองนี่แหละที่เด็ดกว่า! วันเดียวกันเลยเขาออกมาบอกว่า "บิ๊กป้อมลาออกไปเสียเถิดจะเป็นผลดีที่สุด!

          เป็นระดับ ประสาร มฤคพิทักษ์ แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. ที่เคยมีบทบาทในการตรวจสอบการทำงานตั้งแต่สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร

          วันนี้เขาออกมาฉะ! เลยว่าขณะนี้เรื่องแหวนมารดา นาฬิกาเพื่อน แถมเพื่อนก็ตายไปแล้ว เป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายผะอืดผะอมไปด้วยกันหมด นายกรัฐมนตรีก็ไม่สบายใจ ป.ป.ช.ก็กระอักกระอ่วนใจ สื่อมวลชนก็คาใจ คอการเมืองทั้งหลายก็ขัดอกขัดใจ รองนายกรัฐมนตรีก็หมองใจ เหตุผลก็คือ

          1.คนระดับรองนายกรัฐมนตรีที่มากบารมีอย่างนี้ อับจนถึงขนาดต้องยืมนาฬิกาเพื่อนใส่เชียวหรือ

          2.มันมีนาฬิกากี่เรือนกันแน่ที่เพื่อนให้ยืม ณ วันนี้โผล่มาเป็นเรือนที่ 22 แล้ว จะยืมกันมากมายอะไรขนาดนั้น

          3.เพื่อนผู้ให้ยืมตายไปหมดแล้วทุกคนหรืออย่างไร และ

          4.ถ้าเพื่อนตายแล้ว เพื่อนเหล่านั้นไม่มีญาติโกโหติกาที่จะรับคืนนาฬิกาหรือ หรือว่าตกลงกันไว้ก่อนตายว่าถ้าตายแล้วก็ไม่ต้องคืน

          "ดูเหมือนผู้ยืมนาฬิกาจะอาภัพคนเชื่อถือ เพราะหันไปทางไหนก็ไม่มีใครสักคนที่คล้อยตามการแก้ต่างนั้น ซึ่งอดีตผู้นำจีนคนหนึ่งชื่อ เติ้งเสี่ยวผิง พูดไว้น่าฟังยิ่งว่า "อย่าเอาผลประโยชน์ชาติไปตอบแทนบุญคุณส่วนตัว"

          พูดมายืดยาวที่สุดก็ยิงตรงเปรี้ยงเดียวเลยว่า

          "ขอเสนอว่ารองนายกรัฐมนตรีลาออกดีกว่า เป็นวิธีที่จะทำให้ทุกฝ่ายโล่งอกไปด้วยกันไปทั้งหมด"

          ปล. หลายคนยังไม่ลืมว่า ประสารผู้นี้เคยขึ้นเวทีปราศรัยกับกลุ่ม กปปส. ในช่วงปี 2557 แถมต่อมายังได้รับการแต่งตั้งเป็น สปช. ด้วยนาจา!!!

          ตามมาติดๆ กับคนที่เราก็รู้ว่าอยู่ข้างไหน อ่อ ข้างกีตาร์! และเปียโน!

          กับ "ดี้" นิติพงษ์ ห่อนาค ที่ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กด้วยสำนวนคุ้นเคย แต่เนื่อหามาเปลี่ยนแนว เพราะเขากำลังขอให้บิ๊กป้อมลาออก!!

          โดยเมื่อ18 มกราคม ที่ผ่านมา"พี่ดี้" ของน้องๆ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว "Nitipong Honark" ว่า

          ...นาฬิกานั่นก็ไม่เท่าไหร่....แต่คำตอบลุง....นั่น...สะเทือน

.          ...ลุงยังมีประโยชน์ต่อประเทศอีกมาก...แต่ด้วยเกมนี้ ลุงพลาดครับ..ควรจะมีจิตวิทยาการเมืองกว่านี้หน่อย

          ...เรื่องไร้สาระมากเลย แต่เป็นเรื่องที่ไร้สาระที่เสียทีให้ฝ่ายตรงข้ามแหวกแผลได้อย่างเอร็ดอร่อย....และ ฝ่ายกองหนุนก็ได้แต่กุมกบาล..เหมือนเวลาเห็นกองหลังทีมตัวเอง เตะเข้าประตูตัวเองน่ะ...

          ...ลุงลาออกวันนี้....ลุงจะดูดีขึ้นเยอะนะ แล้วไปช่วยน้องตู่ในเชิงที่ปรึกษาแบบในฉาก จะเท่กว่ามากเลย"

          ทำเอาคนอ่านขนลุกซู่ไปตามๆ กันด้วยลีลาสำบัดสำนวนนักแต่งเพลง!

          แต่เดี๋ยวก่อน!!

          คนสุดท้ายนี่ฮอตสุด!! แม้ว่าหลายคนไม่แปลกใจในลีลาของจอมยุทธ์การเมืองผู้นี้ แต่ก็อดที่นำมาเล่าสู่กันฟังไม่ได้

          ก็อดีตนายกฯ ไทยเจ้าเก่า "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ที่ช่วงวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาเขาออกมากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน!

          "ก่อนอื่นต้องพิสูจน์ว่านาฬิกามีอยู่จริงหรือไม่ ถ้าจริงต้องอธิบายว่าเป็นของผู้ใด และถ้ามั่นใจในคำชี้แจงก็ไม่มีอะไรเสียหายที่จะบอกต่อสาธารณชน แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ตอนนี้เรื่องดังกล่าวได้ยืดเยื้อและประชาชนไม่พอใจ และอาจกระทบไปถึงนายกรัฐมนตรีด้วย"

          จากนั้นก็งัดไม้ตายเลยว่า

          "ถ้ายังจำกันได้ในสมัยที่ผมเป็นรัฐบาล เพียงแค่เกิดเรื่องราวขึ้น และยังไม่ได้พิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ นายวิทยา แก้วภราดัย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หรือกรณีนายวิฑูรย์ นามบุตร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยังขอลาออก เพื่อตัดไฟแต่ต้นลมไม่ให้เกิดปัญหา ซึ่งผมจำคำพูดของนายวิทยาที่บอกได้ว่า "ผมไม่อยากเป็นภาระของรัฐบาล"

          อูยทำไมมันคุ้นๆ แต่ก็เจ็บ...ซี๊ดบาดลึกพอๆ กับลีลานายหัวชวนขนาดนี้!!!

          ว่าแต่...ถึงขนาดนี้แล้ว "บิ๊กป้อม" ไม่รู้จะทนเสียงเรียกร้องจากคนสำคัญของบ้านเมืองไทยเหล่านี้ แล้วสะบัดบ๊อบใส่เหมือนเคยๆ ได้นานขนาดไหน คงต้องรอดูกัน!!

logoline