จากการตรวจสอบภายในกระเป๋าใบดังกล่าว พบว่ามีบัตรประชาชน ในอนุญาตขับขี่ บัตรเอทีเอ็ม และเงินสดอีก จำนวน 13,440 บาท
นายศักดิ์ชัย ขุนสมบัติ พลเมืองดี กล่าวว่า ตนเองรับเหมาทำงานอยู่ในบริษัทปทุมธานี บริวเวอรี่ จำกัด โดยหลังจากพักเที่ยงตนเองและคนงานอีกจำนวนมากได้พักและออกมาทานข้าวกลางวันกันที่ร้านขายอาหารฝั่งตรงข้ามโรงงาน ระหว่างที่ตนเดินข้ามถนนก็เห็นกระเป๋าเงินใบดังกล่าวตกอยู่ริมถนน จึงเดินไปเก็บและเปิดดูก็เห็นว่ามีเงินอยู่ด้านในจำนวนมาก จึงอยากจะตามหาเจ้าของเงินเพราะคิดว่าเจ้าของเขาคงต้องเดือดร้อนมากแน่ และพอดีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านมาจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อให้ช่วยติดต่อเจ้าของกระเป๋าเงินมารับกลับไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถติดต่อเจ้าของกระเป๋าเงินใบดังกล่าวได้ทราบชื่อคือ นส.ขวัญตา มินชาติ และได้ติดต่อเพื่อให้มารับของคืน โดย นส.ขวัญตา กล่าวว่า กล่าวด้วยความยินดีว่า ตนเองนั้นทำงานเป็นเชลล์ และวันนี้ได้เดินทางมาที่บริษัท ปทุมธานีบริวเวอรรี่ จำกัดเพื่อเสนอขายสินค้า และระหว่างที่รอเข้าพบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตนเองก็ได้มาทานอาหารที่ร้านฝั่งตรงข้ามบริษัท ก่อนจะรีบกลับเข้าไปในบริษัทเพื่อติดต่องาน ก่อนจะรู้ตัวว่ากระเป๋าเงินได้หายไป
ทั้งนี้ถ้าไม่ได้คืนตนเองคงเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะเงินที่อยู่ในกระเป๋านั้นตนเองได้นำทองไปจำนำเพื่อนำมาใช้จ่ายในธุระจำเป็น รู้สึกดีใจอย่างที่สุดและขอกราบขอบพระคุณคุณลุงศักดิ์ชัย ที่เก็บและคืนได้ ทำให้ตนเองได้เงินคืนกลับมาครบ ขอขอบคุณมากๆทั้งคุณลุงและเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน
ด้าน พ.ต.อ.พีรพล โชติกเสถียร ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ คุณศักดิ์ชัย ขุนสมบัติ ก็เก็บกระเป๋าเงินได้และนำส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถนำส่งคืนให้กลับเจ้าของที่ทำหล่นหายได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีและถูกต้องสำหรับสังคมไทยที่มีน้ำใจต่อกัน ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับคนทั่วไปอีกด้วย