ทีมข่าวเดินทางไปสำรวจที่ลานเบียร์ในห้างสรรพสินชื่อดังแห่งหนึ่งย่านบางนา เมื่อมาถึงเราพบว่าที่นี่มีลานเบียร์เพียงเจ้าเดียว และแสดงโลโก้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของตนชัดเจน บริเวณโดยรอบ มีคนทุกช่วงวัยเดินพลุกพล่าน รวมถึงเด็กๆ
ทีมข่าวเข้าไปสำรวจในลานเบียร์ยี่ห้อดังรายนี้ มีการขอดูบัตรประชาชน และไม่อนุญาตให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้า ซึ่งขั้นตอนนี้ถือว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมาย แต่เมื่อเราเข้ามานั่งด้านใน ก็พบกับสาวเชียร์เบียร์ ราว 8 10 คน ใส่เสื้อ สีเขียว สะท้อนอัตลักษณ์ ของแบรนด์สินค้า
จากการตรวจสอบลงพื้นที่ของสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบลานเบียร์หน้าศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า เข้าข่ายทำผิดกฎหมายแล้วอย่างน้อย 13 แห่ง เช่น ลานเบียร์ย่านปทุมวัน พระราม 9, รามอินทรา, สุขุมวิท และ บางนา เป็นต้น
แม้จะอยู่ใกลจากโรงพยาบาล สถานที่ราชการ วัด และมหาวิทยาลัย แต่ลานเบียร์ย่านปทุมวันแห่งนี้ ก็ยังคงเปิดพื้นที่ให้เอกชนผู้ผลิตเบียร์ยี่ห้อดังต่างๆ เช่าที่หน้าศูนย์การค้า เพื่อเปิดเป็นลานเบียร์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่มาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว มาจนถึงวันนี้
แม้ว่าหลังจากมีพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกมาเมื่อปี 2551 ซึ่งมีข้อกำหนดควบคุมการโฆษณาของสินค้าแอลกอฮอล์ อย่างน้อยที่สุดคือห้ามเห็นตราสินค้า แต่ลานเบียร์ที่นี่ แสดงตราสินค้าให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งผิดกฎหมายเต็มๆ
นอกจากการแสดงโลโก้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะผิดพระราชบัญญัตควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆในลานเบียร์ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายดังกล่าวด้วย เช่น การจัดโปรโมชั่น และสาวเชียร์เบียร์ แต่กิจกรรมเหล่านี้ถูกละเลยในการบังคับใช้กฎหมายใช่หรือไม่ ยังคงเป็นคำถามแม้ลานเบียร์ จะเป็นสิ่งเป็นผิดกฎหมาย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าได้รับความนิยมสูงในช่วงเทศกาล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สะท้อนปัญหาว่าปัจจุบันแม้มีพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ ลานเบียร์ก็มีแนวโน้วเพิ่มมากขึ้น
ไม่เพียงเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ทั่วประเทศก็มีลานเบียร์ที่ไร้การขออนุญาตจากกรมสรรพสามิตฉวยโอกาสเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีราว 70,000 ลาน หรือเฉลี่ย 1 อำเภอ ต่อ 1 ลานเบียร์ ซึ่งต้องยอมรับว่าการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ไม่ทั่วถึง การเพิ่มจำนวนลานเบียร์ ก็นำมาสู่อุบัติเหตุเมาแล้วขับ
วงเสวนา "มองรอบด้าน...ลานเบียร์กับสังคมไทย" อาจารย์คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต นางสาวศรีรัช ลาภใหญ่ ลอยสมุทร ในฐานะเครือข่ายนักวิชาการเฝ้าระวังปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดเผย การศึกษาผลกระทบที่เกิดจากลานเบียร์และกลยุทธ์ประเภทดื่มไม่อั้นของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่ปี 2558-ปัจจุบัน ในกลุ่มนักเรียนมัธยมปลาย และนักศึกษามหาวิทยาลัย 2,498 คน พบว่า นักเรียน ม.ปลาย 1 ใน 3 หรือร้อยละ 34 เคยไปลานเบียร์
ร้อยละ 80.1 ดื่มเดือนละ 2-3 ครั้ง มีพฤติกรรมการดื่มเป็นกลุ่มๆ สังสรรค์อาทิตย์เว้นอาทิตย์ วันเกิด ปีใหม่ และมีความเชื่อว่าดื่มแล้วทำให้สนิทกันมากขึ้น ร้อยละ 37.2 และพบว่าหากดื่มแล้วจะทำให้คลายเครียด
อาจารย์ศรีรัช วิจัยถึงผลกระทบจากการไปเบียร์พบว่าร้อยละ 45.5 เมา ร้อยละ 44.9 เสียเงินมากกว่าที่คิด ร้อยละ 3.4 ทะเลาะวิวาท ร้อยละ 1.7 เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะมอเตอร์ไซต์ และร้อยละ 4.5 ถูกพ่อแม่ต่อว่า
ผลวิจัยชี้ว่า นักศึกษามหาวิทยาลัย ไปลานเบียร์ในช่วงเทศกาล ติดกันมากกว่า 2 คืน และเป็นลานเบียร์ขนาดใหญ่ เพราะอายุถึง ดื่มมากกว่าเด็กม.ปลาย 3 เท่า ค่าใช้จ่าย 2-3 พันบาท
รายจ่ายของกลุ่มนี้เท่ากับ 1 ใน 4 ของรายได้ครอบครัว ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ก็มาจากที่บ้าน ดังนั้น ปัญหานี้ ย้ำว่าลานเบียร์เข้าข่ายผิดกฎหมายเรื่องการส่งเสริมการตลาด ถือเป็นการขายตรงที่ผิดชัดเจน