รวบสาวชิงสร้อยอ้างทำไปไม่รู้ตัวเพราะกินยาลดอ้วน 8 ปี

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 มกราคม พ.ต.ท.นริศ ปรารถนาพร รองผกก.สส.สน.สายไหม ได้รับแจ้งจากห้องวิทยุสื่อสารสน.สายไหมว่ามีคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ภายในร้านห้างทองแม่ทองสุข ใกล้แยกวงศกร ถนนสายไหม แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ได้สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 1 บาทไป 1 เส้น ก่อนหลบหนีไปตามถนนสายไหมด้านขาเข้า จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจเดินเท้าช่วยออกติดตามคนร้าย

ต่อมาเวลา 15.00 น. พ.ต.ท.นริศ ปรารถนาพร รอง ผกก.สส.สน.สายไหม พร้อมด้วย พ.ต.ท.จตุพิทย์ จันทร์อุไร สว.สส.สน.สายไหม พ.ต.ท.สุรินทร์ ภู่ฤทธิ์ สว.กก.สส.บก.น.2 ร.ต.อ.ไพจิตร นุสีวอ รอง สว.สส. ร.ต.อ.ปฎิญญา มณีโชติ รอง สว.สส. ด.ต.กิตติเดช อัญญโพธิ์ ผบ.หมู่ สส.สน.สายไหม และกำลังฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.2 ได้ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.มณีรัตน์ หรือน้ำ ชมชื่น อายุ 26 ปี พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ซึ่งสวมอยู่ที่คอและเสื้อคลุมสีชมพูที่ใส่ก่อเหตุ โดยจับกุมได้ภายในบ้านเลขที่ 17/5 ม.4 ซ.เพิมสิน 18 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ ก่อนควบคุมตัวสอบสวนที่สน.สายไหม

ด้านนายชาญชัย สินธพเรืองชัย อายุ 62 ปี เจ้าของร้านทอง เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.05 น. มีลูกค้าเป็นผู้หญิงผมยาว สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีชมพู อายุประมาณ 25 ปี ขับรถมาจอดหน้าร้านก่อนจะเดินเข้ามาภายในร้าน หลังจากนั้นได้ถามและเลือกซื้อทองเหมือนลูกค้าทั่วไป โดยหญิงสาวคนดังกล่าวได้ขอดูสร้อยคอหนัก 1 บาท ลูกสาวตนจึงหยิบสร้อยคอขนาด 1 บาท จำนวน 6 เส้นมาให้ดู แต่หญิงคนดังกล่าวไม่ชอบ ลูกสาวจึงนำมาเก็บ หลังจากนั้นขอดูสร้อยสามกษัตริย์ขนาด 1 บาท จึงหยิบให้ดูแต่ก็ไม่ชอบอีก ก่อนจะขอกลับมาดูสร้อยคอ 6 เส้นแรกอีกครั้ง

เมื่อดูได้ไม่นานก็หยิบสร้อยคอลายกระดูกงูขั้นปล้อง หนัก 1 บาทของกลางไปลองใส่ที่คอ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากร้านแล้วขับรถจยย.ที่จอดอยู่หน้าร้านออกไป ตนจึงรีบวิ่งออกไปหน้าร้านเพื่อจดจำทะเบียนซึ่งจำได้เพียง เป็นรถสีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 1 กส 9606 กรุงเทพมหานคร ซึ่งคนร้ายใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 5 นาทีเท่านั้น

จากการสอบสวนน.ส.มณีรัตน์ ให้การว่า ตนไม่ได้ทำงานอะไร ที่ทำไปเพราะไม่รู้ตัวจำได้แต่เพียงว่าตนได้ไปซื้อทองมาใส่ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนกินยาลดความอ้วนมาตลอด 8 ปี ก่อนจะเลิกกินหลังจากนั้นก็มีอาการเครียดมาตลอด เมื่อเกิดอาการเครียดก็จะอาละวาด หลังจากนั้นแฟนและแม่ได้พาตนไปพบแพทย์ที่รพ.ศรีธัญญา ซึ่งแพทย์ให้ยามากินตลอด 2 เดือนที่เข้าหาแพทย์ และอยู่ระหว่างการวินิจฉัยของแพทย์ ที่ผ่านมาเวลาเครียดก็จะกินกาแฟแบบซองวันละ 6-7 ซองทุกวัน โดยเมื่อเช้าก็เพิ่งไปรับยากลับมา ตนเสียใจกับสิ่งที่ทำ และทำไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งหลังก่อเหตุได้กลับมานอนพักที่บ้านก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามมาจับ

ด้านพ.ต.ท.ฉัตร์ชัย คู่สันเทียะ สารวัตร (สอบสวน) สน.สายไหม เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุมีประวัติการเข้ารักษาที่รพ.ศรีธัญญา และอยู่ระหว่างการวินิจฉัยของแพทย์ จึงยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ ซึ่งหลังจากนี้จะนำตัวส่งตรวจที่รพ.ศรีธัญญาอีกครั้งเพื่อนำผลการตรวจมาประกอบสำนวนหากพบว่าไม่ได้มีอาการทางสมองก็จะดำเนินการแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์ และนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป