สานสัมพันธ์ไทย-อังกฤษ "รมช.ตปท.สหราชอาณาจักร" เข้าพบ นายกตู่
"นายกฯ" แจง ไทย "เลือกตั้ง" ในปีนี้ ระหว่าง "รมช.ต่างประเทศ สหราชอาณาจักร" เยือนไทย เข้าร่วมหารือเชิงยุทธศาสตร์ ครั้งที่ 3
โดย "พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในนามรัฐบาลไทยว่า รู้สึกซาบซึ้งที่ดุ๊กแห่งยอร์กเสด็จเยือนไทย ในฐานะผู้แทนพระองค์สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบ็ธที่ 2 เพื่อเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร "นายกรัฐมนตรี" ยินดีที่ไทยและสหราชอาณาจักรมีความสัมพันธ์กันมายาวนาน กว่า 400 ปี และยินดีที่ รมช.ต่างประเทศสหราชอาณาจักร เดินทางมาไทย เพื่อเป็นประธานร่วมในการหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร ครั้งที่ 3 ถือว่าเป็นกลไกที่สำคัญในการดำเนินความสัมพันธ์ระดับนโยบายของทั้งสองฝ่าย โดยหวังว่า การหารือดังกล่าวจะนำไปสู่ความร่วมมือที่มีผลเป็นรูปธรรม
พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า นายกฯ ยังได้ย้ำว่า ในฐานะที่สหราชอาณาจักร เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์สำคัญของไทย ไทยพร้อมจะร่วมมือกับสหราชอาณาจักรเพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันในด้านต่างๆ ที่มีศักยภาพ และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะได้หารือกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างกันในอนาคตโดยเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนของทั้งสองประเทศด้วย พร้อมหวังว่า สหราชอาณาจักรจะมองไทยในฐานะประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป็นศูนย์กลางด้านการค้า การลงทุน และการเชื่อมโยงในอนุภูมิภาค รัฐบาลมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ นโยบาย Thailand 4.0 การส่งเสริม 5 อุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) โครงการ EEC เป็นต้น ซึ่งไทยหวังว่า สหราชอาณาจักรจะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น
ในโอกาสนี้ นายกฯ ได้ชี้แจงด้วยว่า ไทยอยู่ระหว่างการดำเนินการตามโรดแม็พของรัฐบาลในการกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง สังคมที่ปรองดอง และบ้านเมืองที่มีเสถียรภาพ ซึ่งคาดว่าน่าจะจัดการเลือกตั้งได้ในปีนี้ ภายหลังจากการจัดทำกฎหมายลูกที่จำเป็นสำหรับการเลือกตั้งเสร็จสิ้น ขณะที่ รมช.ต่างประเทศสหราชอาณาจักร ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเห็นว่าความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรมีรากฐานที่สำคัญและเจริญงอกงามจากความใกล้ชิดระหว่างพระราชวงศ์ของทั้งสองประเทศ และในขณะนี้ความสัมพันธ์ไทยและอังกฤษได้พัฒนาเข้าสู่ยุคใหม่ของความสัมพันธ์ โดยยังได้กล่าวชื่นชมนายกฯ และรัฐบาลไทยถึงวิสัยทัศน์ด้านความมั่นคงทางอาหาร และการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย เช่น โครงการ EEC โดยทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องว่า ความร่วมมือด้านการศึกษาถือเป็นส่วนสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ