ก่อนการเดินทาง โซรัน ยานโควิช หัวหน้าผู้ฝึกสอน กล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ผมยอมรับนะครับว่า ผมอาจจะพูดถึงการขาดตัวหลักมากมาย แต่ผมก็จะไม่นำมาเป็นข้ออ้างของทีม เพราะเรามีการเตรียมมาอย่างต่อเนื่องตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา และเราก็ได้ทดลองทีมมามากมายหลายอย่าง"
"ก่อนหน้านี้เรามีผลการอุ่นเครื่องที่ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ต้องมองว่าเกมกับชลบุรี ถือเป็นการทดสอบผู้เล่นใหม่ส่วนเกมกับพัทยา ก็ถือเป็นเกมทดลองแท็คติก แน่นอนว่าเกมกับออสเตรเลียก็ถือเป็นเกมสำคัญ ซึ่งเกมนั้นทางมิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ก็ได้เดินทางมา และช่วยตัดสินใจอะไรหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องของกองกลางตัวรับที่เรามีปัญหา เขาก็จะช่วยแนะนำว่าต้องแก้ไขปัญหาอย่างไร แน่นอนว่ามันเป็นเกมที่ยาก แต่เราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด"
"เกมกับออสเตรเลีย เราจะใช้ผู้เล่นสองชุด โดยเปลี่ยนกันสองครึ่ง เพราะว่าอย่างที่ทราบว่าอากาศที่ประเทศจีนนั้นหนาวประมาณ 5-6 องศา และมีหมอก, ลม และ ฝน เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือทุกคนต้องสามารถปรับตัวกับสภาพอากาศได้"
ด้าน สุภโชค สารชาติ นักเตะของทีม กล่าวว่า "ผมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดในทุกเกมตรับ สภาพความพร้อมตอนนี้ก็ถือว่าพร้อมมาก และสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์สำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ ผมเองก็ตื่นเต้นนิดหน่อย แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ เพราะก็มีประสบการณ์มาแล้วกับบุรีรัมย์ ผมคิดว่าประสบการณ์ตรงนี้น่าจะช่วยได้เยอะ เพราะว่าเราก็เคยไปเล่นที่จีน จริงๆทีมเราก็มีศักยภาพทีมที่ดีอยู่แล้ว ผมคิดว่าเราสามารถสู้ได้ครับ"
ทีมชาติไทย U23 จะเก็บตัวฝึกซ้อม ที่ ศูนย์ฝึก Jinshan Sports Center เมืองเซี่ยงไฮ้ ไปจนถึง 6 มกราคม 2561 และอุ่นเครื่องหนึ่งนัดกับทีมชาติออสเตรเลีย U23 Qiantan Park Sports Center เมืองเซี่ยงไฮ้ ในเวลา 14.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย U23 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศจีนมีดังนี้
10 มกราคม 2561 // ทีมชาติไทย U23 พบ เกาหลีเหนือ U23 ที่สนาม เจียงหยิน สปอร์ตส์ เซ็นเตอร์ เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
13 มกราคม 2561 // ทีมชาติไทย U23 พบ ญี่ปุ่น U23 เจียงหยิน สปอร์ตส์ เซ็นเตอร์ เวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
16 มกราคม 2561 // ทีมชาติไทย U23 พบ ปาเลสไตน์ U23 ฉางโจว โอลิมปิก สปอร์ตส์ สเตเดี้ยม เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย