svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

เกาหลีเหนือตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรรอบล่าสุดของ UN

25 ธันวาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เกาหลีเหนือตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรรอบล่าสุดของ UN เท่ากับเป็นการประกาศสงคราม หลังมีมติปิดกั้นทางเศรษฐกิจอย่างสมบูรณ์แบบ ห้ามทั่วโลกลักลอบช่วยด้านการค้าและการส่งน้ำมัน เพื่อบีบคั้นให้เกาหลีเหนือยกเลิกพ้ฒนาโครงการยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ข้ามทวีป


ท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนแรงของความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์หลายๆ จดของโลก กดดันราคา Bitcoin ร่วงบงอย่างรุนแรง แต่คำทำนายของ Saxo Bank กลับคาดว่าราคา Bitcoin อาจพุ่งถึง 60,000 ดอลลาร์ในปี 2018

1. สำนักข่าว KCNA ของทางการเกาหลีเหนือได้ออกแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศ ระบุว่า สหรัฐหวาดหวั่นกับแสนยานุภาพนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ จนต้องออกมาเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งด้วยให้มีมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุด ซึ่งเท่ากับเป็นการปิดกั้นทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือทุกด้าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของประเทศและเป็นการประกาศสงครามที่ละเมิดสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี

ในแถลงการณ์ดังกล่าวย้ำว่า อาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมีเป้าหมายเพื่อการป้องปรามและป้องกันตัว และถือว่า ไม่ได้ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศอย่างใด และประเทศที่ยกมือสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ จะต้องรับผิดชอบผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น โดยที่ประเทศเหล่านั้นต้องจ่ายราคาแพงกับสิ่งที่ทำลงไป



2. เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม ซึ่งคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ลงมติเอกฉันท์สนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อเกาหลีเหนือสำหรับการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมติคว่ำบาตรนี้มีเป้าหมายมุ่งตัดการนำเข้าถึงผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกลั่นและน้ำมันลงเกือบทั้งหมด รวมถึงรายได้จากการส่งแรงงานออกนอกประเทศ

ทั้งนี้ มติของ UNSC ต้องการบีบให้ลดการส่งออกปิโตรเลียมกลั่นให้กับเกาหลีเหนือเกือบ 90% ด้วยการจำกัดโควตาที่ปีละ 500,000 บาร์เรล และลดลงอีกหากเกาหลีเหนือยังทดสอบนิวเคลียร์ ICBM อีก นอกากนี้ ยังให้ส่งแรงงานเกาหลีเหนือกลับประเทศภายใน 24 เดือน แทนที่จะเป็น 12 เดือนตามที่เสนอไว้ก่อนหน้านี้



3. ขณะที่ Saxo Bank เป็นแบงก์ของกลุ่มสแนดิเนเวีย มีสำหนักงานใหญ่อยู่ที่โคเปนเฮเกน ในเดนมาร์ก และมีออฟฟิศฝนศูนย์กลางทางการเงินทั่วโลกทั้ง London, Paris, Zurich, Dubai, Singapore และ Tokyo. รวมทั้งมีฐานลูกค้าอยู่ใน 180 ประเทศ ทำนายว่า Bitcoin จะมีมิติใหม่ โดยราคาปรับจึ้นไปถึง 60,000 ดดอลลาร์ในปี 2018

Bitcoin มีการเคลื่อนไหวอย่างร้อนแรงในปี 2017 และอยู่ในภาวะที่มีการสะสมเป็นฟองสบู่ที่ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเปิดตัวซื้อขาย เริ่มขึ้นเดือนมดราคมที่ 800 ดอลลาร์ จนกระทั่งพุ่งขึ้นที่ 19,865 ดอลลาร์ในเดือนธันวาคม เป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,900% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ก่อนที่จะร่วงลงที่ระดับ 12,000 ดอลลาร์ในขณะนี้ โดยมีราคาต้ำสุดทึก 11,590 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา


4. ล่าสุด ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวถึงมูลค่าที่พุ่งขึ้นอย่างมากของ Bitcoin ว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติ ในทำรองเดียวกับที่เจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐเยพูดไว้ช่วงกลางเดือนธันวาคม

ผู้ว่าการ BOJ ออกตัวกล่าวว่า ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะแสดงความเห็นในเรื่องนี้ได้ แต่หากดูที่เส้นกราฟจะพบว่า ราคา Bitcoin ที่พุ่งพรวดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมาก

ทั้งนี้ ผู้ว่าการ BOJ ชี้ว่า Bitcoin นั้นไม่เหมือนกับสกุลเงินทั่วไป เพราะยังไม่มีการกำกับดูแลจากธนาคารกลางหรือรัฐบาลอย่างเป็นทางการ และยังไม่สามารถนำไปชำระค่าสินค้าและบริการ หรือชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ดังนั้น การเทรด Bitcoin จึงมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนหรือเก็งกำไรเท่านั้น



5. ตลาดการเงินญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในหลายตลาดที่ให้การยอมรับกับการซื้อขาย Bitcoin ของทางการญี่ปุ่น ถึงแม้จะไม่มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน ทำให้มีการซื้อขาย Bitcoin ค่อนข้างแอ็คทีฟ โดยที่ราคา Bitcoin ในญี่ปุ่นพุ่งทะลุ 2 ล้านเยน (17,640 ดอลลาร์) ในช่วงช่วงต้นเดือนธันวาคม เพิ่มจากระดับ 100,000 เยนเมื่อเดือนมหราคมที่ผ่านมา ถึง 20 เท่า หรือราว 2,000%

ถึงแม้ว่า กระแสถกเถียงในเรื่องราวของ Bitcoin เป็นวงกว้างว่า สกุลเงินเสมือนจริงอาจถูกนำไปใช้ในการฟอกเงินและเคลื่อนย้ายเงินทุน เนื่องจากผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้อย่างอิสระโดยที่ไม่ต้องเปิดเผยชื่อจริง อย่างไรก็ตาม

โดยมีรายงานว่า ธนาคารกลาวกลุ่ม G-7 เปิดประชุมลับ เตรียมลู่ทางเปิดการลงทุนในสกุลเงินดิจิตัลเก็บเข้าเป็นเงินทุนสำรองทางการในปีหน้า เพื่อใช้เป็นกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนในทุนสำรองระหว่างประเทศ โดยจะอนุญาตเป็นการในการเข้าซื้อขายสกุลเงินดิจิตัล หรือ Cryptocurrency ได้อย่างถูกต้องรามกฎหมาย

logoline