คณะกรรมการตรวจสอบ ได้สรุปผลการเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหาร ภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย ว่า เกิดจากปัญหาสุขภาพที่เกิดจากหลายสาเหตุ ส่งผลให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน หลังจากสอบ ปากคำ พูดคุยกับ นักเรัยนเตรียมทหาร ที่เป็นเพื่อนและรุ่นพี่ จนท.ผู้เห็นเหตุการณ์ ครู นักเรียนบังคับบัญชาทหารปกครอง ทหารเสนารักษ์ กองแพทย์รวม 41 คน
ประกอบกับ ประวัติการรักษาทางการแพทย์และเข้าห้องพยาบาล มาตลอดของ น้องเมย และคำให้การของนักเรียนเตรียมทหารทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง ยืนยันว่าน้องเมยไม่ค่อยแข็งแรงป่วยบ่อย เข้าห้องพยาบาลบ่อย และพบว่าก่อนหน้านี้ หกล้มที่ตรงบันได มีภาพวงจรปิดยืนยัน ตอนจะไปเรียนวิชาพละศึกษา แต่ไม่ได้เกิดจากการถูกซ่อมแต่อย่างใด
คณะกรรมการฯ เข้าใจดีว่ากระแสสังคมเชื่อไปแล้วว่า น้องเมย ถูกซ่อม เสียชีวิตแต่คณะกรรมการฯ จะนำหลักฐานทางการแพทย์การตรวจรักษาและภาพวงจรปิดรวมทั้งการให้ปากคำมายืนยัน และ จากปากคำของนักเรียนเตรียมทหารพบว่าน้องเมย ไม่สบายบ่อย มีอาการปวดหัวไม่สบาย และนอนอยู่ห้องพยาบาลบ่อยครั้ง ก่อนเสียชีวิต 2 วันก็อยู่แต่ห้องพยาบาล คงไม่มีใครไปทำอะไรน้อง
นอกจากนี้ มีการสอบปากคำนักเรียนเตรียมทหารรุ่นพี่ ที่เป็นนักเรียนบังคับบัญชาที่เคยซ่อมน้องเมยเมื่อเดือนสิงหาคม ด้วยท่าปักหัวโหม่งโลก นั้น ก็ได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งนักเรียนบังคับบัญชา และถูกลงโทษไปแล้ว จากนั้น น้องเมย ก็กลับมาเป็นปกติดี หลังจากนั้น ซึ่งถือว่า จบตอนไปแล้ว
แต่ต่อมาก่อน เสียชีวิต 2 วัน นักเรียนรุ่นพียืนยันว่า ให้วิดพื้น ไม่ได้ทำหนักแต่อย่างใดคณะกรรมการฯ จึงสรุปผลว่าน้องเมยน่าจะเสียชีวิตจากปัญหาสุขภาพร่างกาย ของตนเองที่ไม่แข็งแรง ประกอบกับอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันและอาการอื่นประกอบด้วย ซึ่งตรงกับผลการสอบสวน ก่อนหน้านี้ของโรงเรียนเตรียมทหารโดยมีแพทย์ยืนยันโดยในวันที่ 13 ธ.ค. คณะกรรมการจะสรุปผลเสนอ พลเอกธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ส่วนกรณีที่ผลสอบของกองทัพไทย อาจจะสวนทางกับผลสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ บางส่วน ที่ว่า บอบช้ำและซี่โครงร้าว ไม่ได้เกิดจาก การปั้มหัวใจนั้น คณะกรรมการฯ ระบุว่าเราก็มีหลักฐานในเรื่องของการตรวจรักษา ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ชี้แจงในการแถลงข่าวเอง ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะเริ่องพยาธิสภาพของร่างกายบางครั้งก็ยากที่จะเข้าใจได้ สำหรับคนทีมีใช่แพทย์