โสมแดง เข้าถึงหัวรบนิวเคลียร์ย่อส่วนเร็วกว่าที่คาด

การเสนอข่าวเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยุทธภัณฑ์ของเกาหลีเหนือ ทำให้นักสังเกตการณ์ตาไวอย่างเจฟฟรีย์ ลูอิส ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมอาวุธ ทันเห็นภาพนายคิม จอง-อิล ผู้นำคนก่อน กำลังตรวจดูหัวรบนิวเคลียร์ย่อส่วน ซึ่งถ้าภาพสีซีเปียที่เห็นเป็นความจริง ก็แสดงว่า โครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมีความก้าวหน้ากว่าที่คิดไว้มาก และยังยืนยันสิ่งที่เขาคิดที่มานานแล้ว แต่คนอื่นไม่เชื่อว่า เกาหลีเหนือสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีย่อส่วนหัวรบนิวเคลียร์ได้ตั้งแต่ปี 2552 แล้ว

"การย่อส่วนหัวรบ" เป็นขั้นตอนสุดท้ายในกระบวนการสร้างขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่มีความสามารถในการโจมตีเป้าหมายได้ไกลถึงสหรัฐฯ แต่ขณะเดียวกันก็มีคำถามเกี่ยวกับการหายตัวไปของนายพลฮวาง พยอง โซ หนึ่งในคนใกล้ชิดที่ได้ชื่อว่าทรงอิทธิพลที่สุดโดยเป็นถึงผู้อำนวยการคณะกรรมการโพลิตบูโรฝ่ายกองทัพ และได้รับความไว้วางใจมากที่สุดจากนายคิม จอง-อึน หลังปรากฏตัวครั้งสุดท้าย เมื่อกลางเดือนตุลาคม ท่ามกลางความวิตกว่าอาจถูกจำคุกหรือไม่ก็ถูกประหารชีวิตไปแล้ว

หนังสือพิมพ์จุงอัง อิลโบ ของเกาหลีใต้ รายงานว่า นายพลฮวางกับนายคิม วอน-ฮองผู้ช่วยของเขา ถูกขับออกจากพรรคกรรมกร ฐานต้องสงสัยว่ารับสินบนแลกกับความช่วยเหลือในการเลื่อนตำแหน่งภายในพรรคฯ ซึ่งถ้าเป็นความจริง ก็เท่ากับเป็นการสิ้นสุดอนาคตทางการเมือง หรือแม้กระทั่งชีวิตของเขาด้วย ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครบอกได้ว่า เขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ส่วนผู้ช่วยของเขาถูกส่งไปค่ายใช้แรงงานหนัก

เมื่อเดือนที่แล้ว หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ เพิ่งแถลงต่อสภาฯว่า ทั้งสองคนถูกลงโทษฐานมี "ทัศนคติที่ไม่บริสุทธิ์" ต่อนายคิม และหมายความว่า ใครก็ตามที่ถูกมองว่า ไม่ภักดีต่อนายคิม ก็จะไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขอีกต่อไป ไม่ว่าจะมีตำแหน่งสูงแค่ไหน แม้กระทั่งนายจาง ซองแต็ก อาเขยก็ยังถูกประหารชีวิตด้วยวิธีการอันน่าสยดสยอง

ซึ่งบางกระแสข่าวระบุว่าเขาถูกโยนให้สุนัขที่หิวโหยรุมกัดกิน ส่วนนางคิม คยอง-ฮุย ผู้เป็นอาแท้ๆ ก็ถูกให้กินยาพิษหลังตัดพ้อเรื่องสามีถูกประหารชีวิตและนายฮยอง ยอง-ชอย รัฐมนตรีกลาโหม ถูกประหารชีวิตด้วยปืนต่อต้านอากาศยานในความผิดฐานงีบหลับในพิธีสวนสนาม