ผู้สมัคร "ทรัมป์" พ่ายศึก ส.ว.รัฐอลาบามา

ดั๊ก โจนส์ วัย 63 ปี อดีตนักกฎหมายที่โด่งดังจากคดีที่สมาชิกกลุ่มผิวขาวสุดโต่ง คู คลักซ์ แคลนก่อเหตุเผาโบสถ์ของคนผิวดำและทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 รายเมื่อปี 2506 ได้พาครอบครัวขึ้นเวทีประกาศชัยชนะในศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ว.รัฐอลาบามา เมื่อวานนี้ โดยกล่าวว่า การแข่งขันนี้เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีและความเคารพนับถือ

ดั๊ก โจนส์ สามารถเอาชนะรอย มัวร์ อดีตผู้พิพากษาศาลสูงสุดแห่งรัฐอลาบามา วัย 70 ปี ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันมาได้แบบฉิวเฉียด ด้วยคะแนนเสียง 49.9 ต่อ 48.4 เปอร์เซ็นต์ หรือห่างกันเพียง 1.5 เปอร์เซ็นต์ โดยผลเอ็กซิตโพลล์พบว่า คนผิวดำออกมาใช้สิทธิ์มากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา และผู้หญิง 56 เปอร์เซ็นต์โหวตให้พรรคเดโมแครต แต่ที่น่าสนใจก็คือ คะแนนที่เรียกว่า write-in vote หรือการที่ผู้ใช้สิทธิ์เขียนชื่อผู้อื่นซึ่งไม่ได้อยู่ในบัตรลงไปที่สูงถึง 1.7 เปอร์เซ็นต์

ด้านรอย มัวร์ ซึ่งขี่ม้ามาลงคะแนนตามสไตล์คาวบอยเช่นเคย ยังคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และประกาศว่าการที่คะแนนเสียงสูสีกันขนาดนี้ หมายความว่า ศึกนี้ยังไม่สิ้นสุด โดยปกติแล้ว การนับคะแนนใหม่จะสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อส่วนต่างระหว่าง 2 ผู้สมัครน้อยกว่า 0.5 เปอร์เซ็นต์ หรืออาจนับใหม่ได้ทุกเมื่อหากผู้สมัครที่ร้องขอพร้อมออกค่าใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ได้ทวีตแสดงความยินดีกับพรรคเดโมแครตหลังจากทราบผลได้ไม่นาน โดยอ้างว่า write-in vote เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดั๊ก โจนส์ชนะ แต่ชัยชนะก็คือชัยชนะ และอีกไม่นานพรรครีพับลิกันก็จะมีโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง ซึ่งเขาหมายถึงการเลือกตั้งกลางเทอมที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า

การเลือกตั้งระดับรัฐครั้งนี้ได้กลายเป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศ หลังจากรอย มัวร์ ซึ่งในตอนแรกถูกคาดหมายว่าจะชนะขาดลอย ถูกผู้หญิงหลายคนกล่าวหาว่าถูกเขาล่วงละเมิดทางเพศตอนยังไม่บรรลุนิติภาวะเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน รวมทั้งจุดยืนอันอื้อฉาวหลายเรื่อง เช่น การต่อต้านการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน และเชื่อว่าชาวมุสลิมไม่เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งในสภาคองเกรส นอกจากนี้ความพ่ายแพ้ของมัวร์ยังทำให้ส่วนต่างจำนวนที่นั่งในวุฒิสภาระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครตแคบลงกว่าเดิมเหลือ 51 ต่อ 49 ที่นั่ง หรือห่างกันเพียง 2 ที่นั่ง ซึ่งจะส่งผลต่อการผ่านร่างกฎหมายของทรัมป์ในอนาคตอย่างแน่นอน