นักข่าวสาวโร่เเจ้งความ โดนเสี่ยเสนอ 2.2 แสน เเลกเป็นภรรยาลับ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ธันวาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ศูนย์ราชการอาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.กาลเวลา เสาเรือน หรือปอเปี๊ยะ อายุ 31 ปี ผู้สื่อข่าวสายเฉพาะกิจ ทางช่องเวิร์คพอยท์ทีวี นำหลักฐานเอกสารสำเนาข้อความสนทนาระหว่างคู่กรณีเสี่ยหื่นแชทเสนอเงินจำนวน 220,000 บาท เพื่อแลกกับการเป็นภรรยาลับ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับร.ต.อ.ปัสสิทธิ์ ศรีสุโพธิ์ รองสว.(สอบสวน)กก.3 บก.ปอท. เพื่อแจ้งความดำเนินดดีกับชายดังกล่าว

น.ส.กาลเวลา กล่าวว่า เรื่องเกิดขึ้นเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม ผ่านมา มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อว่า "worapong kheawmanee" ได้ติดต่อเข้ามาในเฟซบุ๊กส่วนตัวจากนั้นได้ทักแชทเข้ามาพูดคุยในข้อความสนทนาทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของตน ก่อนมีการเจรจา ยื่นข้อเสนอเงินจำนวน 220,000 บาทต่อเดือน เพื่อแลกกับการเป็นภรรยาลับ โดยระบุว่าต้องไปเจอกันที่โรงแรมตามที่นัดกันทุกวันที่ 5, 15 และวันที่ 25 ของเดือน หรือให้ไปมีเพศสัมพันธ์ 3 ครั้งต่อเดือน ต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวยังได้พยายามวีดิโอคอลเข้ามา โดยพยายามให้เปิดกล้องเพื่อดูหน้าตน แต่ตนไม่ได้ตอบกลับอะไรและตนได้ปฏิเสธ จึงมีการอัพค่าตัวเพิ่มให้อีก 65,000 บาท รวม 280,000 บาท จากนั้นก็ได้ส่งภาพผู้หญิงคนอื่นๆ แบบโป๊เปลือยโดยอ้างว่า ทุกคนที่ส่งมาเป็นภรรยาลับเหมือนกัน นอกจากนั้นยังส่งภาพอวัยวะเพศที่เขาสำเร็จความใคร่มาด้วย ตนจึงรับไม่ได้พยายามปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนบล็อคเฟซบุ๊กดังกล่าว และตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีในทุกข้อหาที่เอาผิดได้

น.ส.กาลเวลา กล่าวต่อว่า ตนไม่รู้ว่ามีคนปลอมเฟซบุ๊ก หรือเป็นเฟซบุ๊กเขาจริงๆ หรืออาจเป็นโรคจิต มิจฉาชีพ เพราะตนทำงานในที่สาธารณะอยู่ในที่แจ้งจึงกลัวเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตนได้นำข้อมูลในเฟซบุ๊กชายดังกล่าว ซึ่งในโปรไฟล์ระบุเป็นผู้บริหารหลายแห่ง เช่น ตำแหน่งเอ็กซ์คลูซีพ ไดเร็กเตอร์ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ทั้งนี้ตนได้ติดต่อตรวจเช็คในสถานที่ที่เขาอ้างถึงก็ไม่พบว่าเป็นผู้บริหารตามที่ลงข้อมูลในโปรไฟล์ การที่ตนออกมาเรียกร้องและมาแจ้งความ เพื่อที่จะดำเนินคดีในทุกข้อหาหากเข้าข้อกฏหมาย แต่ต้องขอปรึกษาตำรวจเจ้าของคดีก่อน ว่าเข้าข่ายข้อหาอะไรบ้าง และอยากเป็นตัวแทน ผู้หญิงที่โดนแบบตน และให้กล้าออกมาแจ้งความ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำ น.ส.กาลเวลา ไว้ก่อน จากนั้นให้ ฝ่ายสืบสวนบก.ปอท.ทำการตรวจสอบว่าเป็นเฟซบุ๊กจริงหรือไม่ หากจริงจะออกหมายเรียกเจ้าของเฟซบุ๊กมาสอบปากคำ ตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป