Rex Tillerson กล่าวในสิ่งที่สะท้อนถึงการปรับเปลี่ยนท่าทีการบริหารของทรัมป์
เมื่อ Rex Tillerson กล่าวในสิ่งที่สะท้อนถึงการปรับเปลี่ยนท่าทีการบริหารของทรัมป์ โดยยื่นข้อเสนอว่า หากเกาหลีเหนือเห็นด้วยกับการที่จะช่วยกันเพื่อสามารถหลีกเลี่ยงสงคราม ซึ่งเกาหลีเหนือพร้อมเมื่อใด การเจรจาก็เริ่มขั้นได้เมื่อนั้น โดยย้ำว่าประตูสู่การเจรจากับระบอบคิมยังเปิดอยู่ และเปิดกว้างยิ่งกว่าทุกครั้ง ซึ่งนับเป็นการผ่อนปรนจุดยืนเดิมของสหรัฐที่ยืนกรานว่าเกาหลีเหนือต้องยอมรับหลักการปลดอาวุธนิวเคลียร์เสียก่อน
ขณะที่คิม จองอึน ยังคงประกาศจะทำให้เกาหลีเหนือเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก โดยที่สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ผู้นำเกาหลีเหนือได้กล่าวต่อบรรดาเจ้าหน้าที่ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ครั้งล่าสุด
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นในวันอังคาร ทั้งดาวโจนส์และ S&P500 ยังคงทำนิวไฮ สวนทางดัชนี Nasdaq ที่ร่วงลง หลังจากแรงหนุนของกลุ่มการเงิน และท่ามกลางความคืบหน้าของแผนลดภาษีในสภาคองเกรส และความคาดหมายว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 13 ธ.ค.นี้
1. Rex Tillerson รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ กล่าวในสิ่งที่เซอร์ไพรส์ว่ารัฐบาลสหรัฐยินดีที่จะเจรจากับเกาหลีเหนือโดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขใดๆ เป็นการล่วงหน้า เพียงมาพบกันเพื่อพูดคุยในสิ่งที่เกาหลีเหนือต้องการ ไม่ว่าเกาหลีเหนือจะต้องการให้เป็นการประชุมลักษณะทั่วไปหรือเฉพาะกิจ โดยเขากล่าวในงานเสวนาด้านนโยบายของสถาบันวิจัย แอตแลนติกเคาน์ซิล ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.เมื่อวันอังคาร
รัฐมนตรีค่างประเทศสหรัฐย้ำว่าประตูสู่การเจรจากับระบอบคิมยังเปิดอยู่ และเปิดกว้างยิ่งกว่าทุกครั้ง ซึ่งนับเป็นการผ่อนปรนจุดยืนเดิมของสหรัฐที่ยืนกรานว่าเกาหลีเหนือต้องยอมรับหลักการปลดอาวุธนิวเคลียร์เสียก่อนถึงจะคุยกันได้ แต่ทั้งสหรัฐและเกาหลีเหนือจะสามารถนั่งลงและหันหน้าเข้าหากันหรือไม่ เพื่อที่จะร่วมกันจัดทำแผนการต่างๆ สำหรับอนาคต
ท้งนี้ Rex Tillerson ยืนยันว่า มาตรการกดดันทางการทูตเพื่อกดดันเปียงยางในทางเศรษฐกิจ และคำขู่ใช้กำลังทหารจัดการกับเกาหลีเหนือจะยังคงดำเนินต่อไป เพราะทางการวอชิงตันไม่อาจยินยอมให้เกาหลีเหนือกลายเป็นรัฐนิวเคลียร์รายใหม่ ขณะที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยประกาศกร้าวว่าจะไม่ยอมให้ผู้นำเกาหลีเหนือสร้างขีปนาวุธยิงข้ามทวีปที่สามารถโจมตีเมืองใหญ่ๆ ของสหรัฐได้สำเร็จ แต่ดูเหมือนภัยคุกคามดังกล่าวจะใกล้เป็นจริงขึ้นทุกวัน
2. ขณะที่คิม จองอึน ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ ยังคงประกาศจะทำให้เกาหลีเหนือเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก โดยที่สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ผู้นำเกาหลีเหนือได้กล่าวต่อบรรดาเจ้าหน้าที่ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ว่า เกาหลีเหนือจะยังคงก้าวไปอย่างมีชัยชนะสู่การเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ และการทหารที่แข็งแกร่งที่สุด
ทั้งนี้ KCNA ยังรายงานอีกว่า ประธานาธืบดีคิม จองอึน สั่งให้นักวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการผลิตอาวุธและเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุด เพื่อยกระดับแสนยานุภาพนิวเคลียร์ทั้งที่มีคุณภาพและปริมาณ หลังจากที่เพิ่งทำการทดสอบยิงขีปนาวุธ Hwasong-15 จนประสบความสำเร็จ ซึ่งผู้นำเกาหลีเหนือประกาศว่าเป็นจรวดข้ามทวีปที่ยิงไปไกลถึงวอชิงตัน จนสามารถทำให้ทั่วโลกได้เห็นถึงเกียรติภูมิของเกาหลีเหนืออีกครั้ง
3. ทั้งนี้ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐ ได้เปิดฉากการซ้อมติดตามขีปนาวุธในน่านน้ำใกล้กับคาบสมุทรเกาหลีและญี่ปุ่น โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ การซ้อมปฏิบัติการครั้งนี้ใช้เวลา 2 วัน และเกิดขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญของมูลนิธิเพื่อการพิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย (Foundation for Defense of Democracies) เตือนทำเนียบขาวว่าไม่ควรด่วนเจรจากับเกาหลีเหนือ จนกว่าจะมีวิธีรับรองได้ว่าการทดสอบนิวเคลียร์จะไม่เกิดขึ้นอีก และต้องบีบให้เกาหลีเหนือยอมรับเงื่อนไขปลดอาวุธนิวเคลียร์เสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้การเจรจาล้มเหลวเหมือนช่วงเวลาที่ผ่านมา
4. ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นในวันอังคาร ทั้งดาวโจนส์และ S&P500 ยังคงทำนิวไฮ สวนทางดัชนี Nasdaq ที่ร่วงลง หลังจากแรงหนุนของกลุ่มการเงิน และท่ามกลางความคืบหน้าของแผนลดภาษีในสภาคองเกรส และความคาดหมายว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดาวโจนส์ปิดที่ 24,504 เพิ่มขึ้น 118.77 จุด หรือ 0.49% S&P500 ปิดที่ 2,664 P500 เพิ่มขึ้น 0.15% ขณะที่ Nasdaq ปิดที่ 6,862 Nasdaq ลดลง 0.19% นำโดยหุ้นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ปิดแดนบวก
ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงผลการประชุมในวันพุธที่ 13 ธ.ค. ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ขณะที่นักลงทุนรอภาพการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจรอบล่าสุดว่า จะส่งสัญญาณใดๆ เพิ่มเติมหรือไม่
5. สำหรับการซื้อขาย Bitcoin ยังคงมีภาวะที่เป็นฟองสบู่ลูกใหญ่ขึ้น ถึงแม้ว่าการเปิดซื้อขายในตลาดล่วงหน้าใน CBOE (Chicago Board Of Exchange) ล่มลงในวันแรกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่หลังจากหยุดพักการซื้อขายแล้ว กลับเปิดใหม่นั้นราคาก็พุ่งขึ้นถึง 20% จนแตะ 18,000 ดอลลาร์ ก่อนร่วลง 600 ดอลลาร์ ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 17,500 ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ต้นปีมานี้ ราคา Bitcoin มีการปรับตัวพุ่งขึ้นถึง 17 เท่า ขณะที่้พิ่มขึ้นถึง 64 เท่าในช่วง 3 ปี โดยที่นักเก็งกำไรยังคงจับตาที่การซื้อขาย Bitcoin Futures ที่จะเปิดเทรดในตลาด CME (Chicago Mercantile Exchange) วันจันทร์ที่ 18 ธ.ค.นี้