svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"วิระชัย" ลงใต้เข้าค้น-เก็บตัวอย่างดินนายทุนรุกเกาะหลีเป๊ะ

11 ธันวาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 11 ธ.ค.60 พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รรท.รอง ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. นำทีมพนักงานสอบสวน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาและพืชพันธ์ เดินทางไปตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ กรณีที่มีนายทุนได้รุกล้ำพื้นที่ สภ.หลีเป๊ะ ซึ่งกินพื้นที่เข้ามากว่า 8 ไร่ และยังฟ้องขับไล่ตำรวจให้รื้อถอน สภ.หลีเป๊ะออกจากที่ตั้ง โดยก่อนเดินทางไปที่เกาะหลีเป๊ะ ได้ประชุมวางแผนการเข้าปฏิบัติการ ณ อาคารกองบังคับการฝูงฝูงบิน 561 กองบิน 56 ต.โคกม่วง อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา โดยมี พล.ต.อ.อรรทพล แช่มสุวรรณวงศ์ อดีต รอง ผบ.ตร.ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าตำรวจจังหวัดสตูล เมื่อ ปี พ.ศ. 2525 ร่วมปะชุม และมี นายอรรถพล เพชรชู อดีต จนท.พิทักษ์ป่า กรมวนอุทยาน มาร่วมรอให้การต้อนรับ

นายอรรถพล กล่าวว่า เดิมตนมีชื่อว่า นายหนูอัด เพชรชู ในช่วงปี พ.ศ.2524-2525 ตนปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาป่าไม้อยู่บนเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งมักจะมีนายทุนว่าจ้างให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ลักลอบตัดไม้ไปแปรรูปขาย มีเจ้าหน้าที่รัฐถูกลอบยิงเสียชีวิตหลายราย วันหนึ่งตนได้เกิดการปะทะกับกลุ่มโจรบนเกาะหลีเป๊ะ และถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จึงได้วิทยุขอความช่วยเหลือไปยังตำรวจ ภ.จว.สตูล และท่าน พ.ต.อ.อรรทพล (ยศในขณะนั้น) ได้นำเฮลิคอปเตอร์ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือ และนำตัวส่งโรงพยาบาลได้ทันการณ์จนรอดชีวิตมาได้ ต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็น นายอรรถพล เพื่อรำลึกถึงผู้มีพระคุณที่ได้ช่วยชีวิตของตนไว้ เมื่อทราบข่าวว่าวันนี้(11 ธ.ค.)ท่าน พล.ต.อ.อรรถพล จะเดินทางไปเป็นพยานนำชี้พื้นที่บนเกาะหลีเป๊ะ ตนจึงรีบมาดักรอพบ และยินดีที่จะร่วมเดินทางไปเป็นพยานด้วย แม้ทราบดีว่าพื้นที่นี้มีอิทธิพลมืดดูแลผลประโยชน์จำนวนมหาศาลอยู่ และตนเองอาจได้รับอันตรายจากการมาเป็นพยานในครั้งนี้แต่ก็ยินดี

จากนั้น พล.ต.อ.วิระชัย ได้ประชุมชี้แจงการปฏิบัติกับทีมงาน ประกอบด้วยฝ่ายสอบสวน ฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายพิสูจน์หลักฐาน ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาและพันธ์พืช จากกระทรวงเกษตรฯ และเจ้าหน้าที่อื่นๆ อีกหลายฝ่าย ก่อนออกเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ไปเข้าปฏิบัติการยังพื้นที่พิพาทเกาะหลีเป๊ะ เพื่อเข้าค้นและเก็บตัวอย่างดินในรีสอร์ทดังต่อไป

ต่อมาเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.อ.วิระชัย พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมิทธิ มุกดาสนิท รอง ผบช.ภ.9 และ พ.ต.อ.ชัชพิสิฐ นคราวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สตูล ได้นำหมายค้นศาลอาญาที่ 562/2560 ลงวัาที่ 10 ธ.ค.2560 เพื่อเข้าตรวจสอบที่ดิน สิ่งเพาะปลูกในที่ดิน ในบริเวณที่ตั้งของ บันดาหยา วิลล่า และ บันดาหยา รีสอร์ท หมู่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เพื่อเก็บตัวอย่างดินและหิน รวมทั้งสิ่งเพาะปลูกมาทำการตรวจวิเคราะห์ทางธรณีวิทยา เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้อง

เมื่อไปถึงบริเวณพิพาท ปรากฏว่ามีการปักป้ายข้อความว่า "พื้นที่ส่วนบุคคล" ไว้ทั่วบริเวณ และยังมีป้ายประกาศข้อความว่า "ที่ดินส่วนบุคคลมีเอกสารสิทธิ์ ไม่ใช่เขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ห้ามเจ้าหน้าที่อุทยานเข้าพื้นที่โดยมิได้รับอนุญาต" แต่ได้ใช้สีขาวทาทับข้อความบางส่วนไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังสามารถอ่านข้อความประกาศห้ามเจ้าหน้าที่วนอุททยานได้อย่างชัดเจน และได้พบนายอมรินท์ ศาลากิจ ผู้จัดการทั่วไปของบันดาหยา รีสอร์ท และบันดาหยา วิลล่า พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี ธีร์ธวัช สายชนะพันธ์ ทนายความประจำ บันดาหยา รีสอร์ท และบันดาหยา วิลล่า เจ้าหน้าที่จึงได้อ่านหมายค้นให้ฟัง พร้อมนายอมรินทร์ และนายธีร์ธวัช ลงนามรับทราบหมาย 

จากนั้น พล.ต.อ.วิระชัย ได้นำ ดร.ศุภกาญจน์ ล้วนมณี ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา และ นายบรรณพิชญ์ สัมฤทธิ์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ผู้เชี่ยววชาญด้านธรณีวิทยาและพันธุ์พืชจากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำชี้พื้นที่เก็บตัวอย่างดิน และสั่งให้รถแบคโฮขนาดเล็ก ขุดดินลึกประมาณ 1.5 - 1.6 เมตร เป็นจำนวนหลายจุดทั่วพื้นที่ และได้เก็บตัวอย่างเศษดินและซากพืชไปตรวจพิสูจน์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถทราบผลได้ในประมาณ 1 สัปดาห์

ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวทางกรมอุทยานฯได้อนุญาตให้กรมตำรวจในสมัยนั้นเข้าใช้ประโยชน์ได้ จำนวน 9 ไร่ เพื่อตั้งสถานีตำรวจ บ้านพักข้าราชการตำรวจ และจัดการฝึกอบรมการรักษาความปลอดภัยทางทะเลให้แก่ชาวทะเลในหมู่เกาะตะรุเตา โดยนายทุนได้มาก่อสร้างรีสอร์ทหรู ห้องพักราคาหลักหมื่นต่อคืน โดยรุกล้ำพื้นที่ สภ.หลีเป๊ะ เข้ามากว่า 8 ไร่ และยังฟ้องขับไล่ตำรวจให้รื้อถอน สภ.หลีเป๊ะออกจากที่ตั้ง โดยอ้างว่าตัวเองมีเอกสารสิทธิ์เหนือที่ดินผืนดังกล่าว แต่ศาลยกฟ้อง ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.อรรทพล แช่มสุวรรณวงศ์ อดีต รอง ผบ.ตร. ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าตำรวจจังหวัดสตูล เมื่อ ปี พ.ศ. 2525 ซึ่งนับเป็นนายตำรวจผู้บุกเบิกพัฒนาเกาะหลีเป๊ะที่เคยเป็นย่านโจรสลัดให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว จนได้รับความนิยมและมีความสวยงามทางธรรมชาติของโลกในปัจจุบันนี้ จึงนับเป็นพยานปากสำคัญที่สร้างคุณูปการไว้ให้เกาะหลีเป๊ะอย่างมากมาย และเป็นที่รักใคร่ของคนเก่าแก่บนเกาะหลีเป๊ะอีกด้วย

logoline