svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ปะทะเดือด! หลังจากทรัมป์ประกาศรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอล

08 ธันวาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ร้อนระอุไปทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกกลาง จากเหตุการณ์ปะทะเดือดระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลหลายจุดในเขตฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ หลังจากที่ทรัมป์ประกาศรับรองนครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤกัสฯที่ผ่านมา และถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นผู้จุดไฟสงครามขึ้นในภูมิภาคนี้ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 31 คน


ขณะที่นักลงทุนทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้น Facebook และ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่สถาคองเกรสสหรัฐโหวตผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Government Shutdown ส่งผลทั้ง 3 ตลาดดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวกเพิ่มขึ้น 0.29-0.54%

สวนทางทองคำที่ดิ่งลง 13 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ 1,253.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ ขณะที่นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นเดียวกับทิศทางราคา Bitcoin ถูกแรงปั่นพุ่งแตะนิวไฮทะลุ 19,600 ดอลลาร์ ก่อนถูกเบรกดิ่งลง 16,660 ดอลลาร์ หลังระบบซับพอร์ตการซื้อขายสกุลเงินดิจิตัลเกิดล่มลงเป็นเวลานานถึง 25 นาที


1. ชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ และฉนวนกาซานับหลายพันคนพากันชุมนุมประท้วงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้ประกาศรับรองให้กรุงเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลเมื่อบ่ายวันพุธตามเวลาในสหรัฐ ส่งผลให้สถานการณ์ที่ร้อนระอุไปทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกกลาง จากเหตุการณ์ปะทะเดือดระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลในหลายจุดเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 31 คน

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นผู้จุดไฟสงครามขึ้นในภูมิภาคนี้ ขณะที่ผู้นำปาเลสไตน์ออกมากล่าวหาผู้นำสหรัฐว่าเป็นผู้ขัดขวางสันติภาพ รวมทั้งสหรัฐไดัถอนตัวออกจากการมีบทบาทในการเจรจาสันติภาพลงแล้ว

ขณะเดียวกันผู้สังเกตการณ์หลายคนมองว่า การจัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ในครั้งนี้เป็นปัญหาจากการเมืองภายในของสหรัฐมากกว่า โดเยเฉพาะมีการมองเบื้องลึกไปยังกลุ่มทุนขนาดใหญ่ในสหรัฐว่าเป็นผู้ผลักดันจนประสบความสำเร็จ เป็นปัจจัยที่ทำให้เป็นชนวนเหตุการประท้วงเดือด ต่อต้านประธานาธิบดีทรัมป์ที่จุดไฟสงครามตะวันออกกลาง


2. ขณะที่อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์พยายามปลุกให้ลุกฮือต่อต้านอิสราเอลครั้งใหม่ ในขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับศัตรูไซออนนิสต์ของชาวยิว และตอบโต้ที่สหรัฐรับรองนครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล

ซึ่งเป็นท่าทีที่สอดคล้องกับความเห็นของผู้นำรัสเซียและตุรกีที่ออกมาเตือนถึงการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง


3. ขณะที่มีรายงานว่า คณะมนตรีความมั่ยคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จะเปิดประชุมฉุกเฉินในวันนี้ เพื่อพืจารณาท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ตัดสินใจฝ่ายเดียวรับรองเมืองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ทั้งที่นครเยรูซาเล็มถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของ 3 ศาสนาหลักคือยูดาห์ คริสต์ และอิสลาม ซึ่งรัฐปาเลสที่จัดตั้งในขณะนี้คาดหวังไว้ว่า จะใช้นครเยรูซาเล็มในฝั่งตะวันออกเป็นเมืองหลวงในอนาคตหากว่าการเจรจาสันติภาพยุติเสร็จสมบูรณ์

ทั้งนี้ อิสราเอลได้ครอบครองดินแดนฝั่งตะวันตกของกรุงเยรูซาเล็มนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศขึ้นในปี 1948 และหลังจากนั้นในปี 1967 อิสราเอลก็ได้ยึดครองดินแดนฝั่งตะวันออกมาจากจอร์แดน และประกาศรวมดินแดนทั้งสองฝั่ง โดยสถาปนากรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวง ซึ่งที่ผ่านมาประชาคมโลกไม่ได้ให้การอมรับการประกาศเพียงฝ่ายเดียวของอิสราเอล


4. ขณะที่นักลงทุนทยอยกลับเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้น Facebook และ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ปรับตัวพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่สถาคองเกรสสหรัฐโหวตผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Government Shutdown ส่งผลทั้ง 3 ตลาดดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก

ดาวโจนส์ปิดที่ 24,211 เพิ่มขึ้น 70.57 จุด หรือ 0.29% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,812 เพิ่มขึ้น 0.54% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,636 เพิ่มขึ้น 0.29%

สวนทางทองคำที่ดิ่งลง 13 ดอลลาร์ หรือ 1.03% ปิดที่ 1,253.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ ขณะที่นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

ทางด้านราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ WTI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 73 เซนต์ ปิดที่ 56.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำสันดิบเบรนต์ทะเลเหนือ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 98 เซนต์ ปิดที่ 62.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


5. เช่นเดียวกับทิศทางราคา Bitcoin ถูกแรงปั่นพุ่งแตะนิวไฮทะลุ 19,600 ดอลลาร์ ก่อนถูกเบรกดิ่งลงถึง 3,000 ดอลลาร์ ลงมาเทรดที่ 16,660 ดอลลาร์ หลังระบบซับพอร์ตการซื้อขายสกุลเงินดิจิตัลเกิดล่มลงเป็นเวลานานถึง 25 นาที

โดยพบว่า ราคาเทรด Bitcoim ถูกผลักดันขึ้นไปจุดสูงสุดทะลุระดับ 19,000 ดอลลาร์ใช้เวลาเพียงแค่ 13 นาท จากระดับราคา 17,000-18,000 ดอลลาร์ซึ่งใช้เวลา 10 นาที และที่ระดับราคา 18,000-19,000 ดอลลาร์ ใช้เวลาเพียงแค่ 3 นาที

ทั้งนี้ ความร้อนแรงของ Bitcoin นั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวันพุธ จนถึงวันพฤหัสฯ โดยใช้เวลาเพียง 38 ชั่วโมงในการปั่นราคา Bitcoin ให้พุ่งจากระดับ 12,000-17,000 ดอลลาร์ หลังจากที่มีแรงซื้อล็อตใหญ่จากนักลงทุนในเกาหลีใต้และญี่ปุ่น

logoline