ไขคำตอบโครงการอสังหาฯ เกาะติดอานิสงส์รถไฟฟ้า
พื้นที่แนวรถไฟฟ้า กลายเป็นกลยุทธ์พื้นฐานของบรรดาผู้ประกอบการอสังหาฯ ในการลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียม เพื่อเจาะกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่เลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน โดยคนกลุ่มนี้มักเป็นหนุ่มสาวออฟฟิศ และนักเรียน นักศึกษา ที่ผู้ปกครองเลือกซื้อให้อยู่ใกล้กับแหล่งงานและสถานศึกษา ประกอบกับยังเป็นช่องทางให้กับกลุ่มนักลงทุน ที่มองหาอสังหาฯ ทำเลดี ไว้รอผลตอบแทนระยะยาวจากมูลค่าของโครงการอสังหาฯ ที่ตั้งอยู่โซนทำเลทองนั้น สืบเนื่องจากในโซน CBD หรือแนวรถไฟฟ้ามักมีราคาปรับตัวสูงตามราคาที่ดิน ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ราคาดีดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น เป็นเพราะพื้นที่ดังกล่าวมีการพัฒนาความเจริญอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลให้เกิดดีมานด์สูง
โครงการอสังหาฯ หันมาพึ่งอานิสงส์เส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคตมากขึ้นตั้งแต่ปี 59 เป็นต้นมาเหตุนี้จึงทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ มักลงทุนกว้านซื้อที่ดินแนวรถไฟฟ้า โดยเฉพาะบริเวณส่วนต่อขยายหรือที่กำลังจะเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้ สืบเนื่องจากราคาที่ดินยังอยู่ในระดับจับต้องได้ เหมาะแก่การนำมาพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม ทั้งนี้ส่วนใหญ่มักชูกลยุทธ์เรื่องระยะความใกล้ของพื้นที่โครงการกับรถไฟฟ้า เพื่อสร้างความน่าสนใจและมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้อยู่อาศัย5 อันดับราคาที่ดินแนวรถไฟฟ้าแพงสุด ปี 60
เจาะราคาที่ดินอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ แถบเส้นรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท ที่มีมูลค่าที่ดินหลักล้าน ส่งผลให้ราคาขายคอนโดมิเนียมย่านดังกล่าว เริ่มต้น 150,000 300,000 บาท/ตร.ม.
อันดับ 1: สยาม 2.13 ล้านบาท/ตร.ว.อันดับ 2: ชิดลม 2 ล้านบาท/ตร.ว.อันดับ 3: สีลม 1.7 ล้านบาท/ตร.ว.อันดับ 4: สุขุมวิทตอนต้น 1.9-2 ล้านบาท/ตร.ว.อันดับ 5: ถนนวิทยุ 1.6 ล้านบาท/ตร.ว.
อัพเดทรถไฟฟ้าสายอนาคต เตรียมเปิดบริการ
เมื่อโครงการอสังหาฯ เกาะติดอานิสงส์โครงการรถไฟฟ้า จึงทำให้ผู้ประกอบการมักเลือกปักหมุดโครงการในอนาคต ตามแผนนโยบายการก่อสร้างของรัฐบาล โดยเฉพาะสายที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและกำลังเปิดตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อย่างเส้นสายสีเขียว สีน้ำเงินบริเวณส่วนต่อขยาย สีชมพู สีส้ม เป็นต้น ทั้งนี้ล้วนเป็นเส้นทางที่ขยายออกสู่พื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นนอกมากขึ้น ล่าสุด โครงข่ายการคมนาคมในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และแผนการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีรถไฟฟ้า ได้เผยความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และจะเปิดบริการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยมีจำนวนทั้งหมด 6 โครงการ ดังต่อไปนี้
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เป็นหนึ่งในสายที่น่าจับตามอง เพราะจะมีสถานีหัวลำโพงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมหลายเส้นของประเทศ ภาพ via www.mrta.co.th
1. สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค เตรียมเปิดให้บริการปี 25622. สายสีเขียว คอนใต้ ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ เตรียมเปิดให้บริการปี 25613. สายสีเขียว ตอนเหนือ ช่วงหมอชิต-คูคต เตรียมเปิดให้บริการปี 25634. สายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เตรียมเปิดให้บริการปี 25635. สายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-รังสิต เตรียมเปิดให้บริการปี 25636. สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี เตรียมเปิดให้บริการปี 2567
ในวันที่เส้นสายรถไฟฟ้าครอบคลุมทุกพื้นที่ คู่จิ้นอย่างอสังหาฯ จะงัดกลยุทธ์ใด?
แน่นอนว่า ณ เวลานี้ ผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังหวังอานิสงส์จากรถไฟฟ้า เพื่อพิชิตยอดขายให้กับโครงการตามระดับดีมานด์ของพื้นที่ในแต่ละย่าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากภาพในอนาคตแนวเส้นรถไฟฟ้าได้ครอบคลุมทั้งหมดทุกพื้นที่ เหล่าอสังหาฯ จะงัดกลยุทธ์ใดมาดึงความสนใจให้กับผู้ซื้อเชื่อว่าสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้เผชิญในโปรโมชันของเหล่าผู้ประกอบการจะไม่ใช่ระยะความใกล้ของที่ตั้งกับโครงการ แต่จะกลับกลายเป็นสนามแข่งขันเรื่องความ Smart ที่ปัจจุบันหลายโครงการพยายามแต่งเสริมเติมแต่ง Prop Tech ลงไปในรายละเอียดของคอนโดฯ คาดว่าอนาคตข้างหน้า คงได้เห็นบรรดาโครงการคอนโดมิเนียมได้ลงสนามแข่งเรื่องที่อยู่อาศัยอันอยู่บนพื้นฐานของนวัตกรรมเทคโนโลยีมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป
เรื่องข้างต้นเขียนโดย อารยา ศิริพยัคฆ์ Content Writer ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com
บทความข้างต้นเผยแพร่ครั้งแรกที่ DDproperty.com เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์ ที่รวบรวม ข่าวอสังหาฯ คู่มือซื้อขาย และ รีวิวโครงการใหม่ ไว้กว่า 10,000 บทความ