โลกส่อป่วน! ประชาคมโลกไม่ยอมรับ ทรัมป์ประกาศรับรองให้นครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล

ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวอย่างมั่นใจว่า ไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่าการรับรองความจริง เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ต้องทำ พร้อมกับย้ำว่าการตัดสินใจนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวทางใหม่ในการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ขณะเดียวกันวอชิงตันยังคงมีความตั้งใจแสวงหาข้อตกลงสันติภาพในภูมิภาค พร้อมกันนี้ได้มีแผนการย้ายสถานทูตสหรัฐจากเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเล็ม

ส่วนผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกอ่อนตัวลง โดยหุ้นเอเชียร่วงลงตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงเมื่อคืนวันพุธ นำโดยดัชนีหั่งเส็ง ฮ่องกงปิดช่วงเช้าลดลง 361.16 จุด หรือ 1.25% ส่วนดัชนีนิกเกอิร่วงลง 202.50 จุด หรือ 0.90% เนื่องจากแรงกดดันโดยตลาดได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงเกือบ 3% โดย WTI ร่วงลง 1.66 ดอลลาร์ที่ 55.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 1.64 ดอลลาร์ ที่ 61.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเล็กน้อยที่ 93.57 จากระดับ 93.62 ในวันก่อนหน้า


1. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศรับรองอย่างเป็นทางการให้นครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล เมื่อเวลา 01.00 น.วันนี้ โดยย้ำว่า ได้คิดเรื่องนี้ควรเกิดขึ้นมานานแล้ว เนื่องจากประธานาธิบดีหลายคนก่อนหน้านี้ได้ให้สัญญาในเรื่องนี้ในการรณรงค์หาเสียง แต่กลับไม่ได้ทำอะไร แต่ในวันนี้เขากำลังทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้

ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวอย่างมั่นใจว่า ไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่าการรับรองความจริง เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่ต้องทำ พร้อมกับย้ำว่าการตัดสินใจนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวทางใหม่ในการคลี่คลายความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ทั้งนี้ วอชิงตันยังคงมีความตั้งใจแสวงหาข้อตกลงสันติภาพในภูมิภาค

พร้อมกันนี้ได้มีแผนการย้ายสถานทูตสหรัฐจากเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเล็มด้วย ซึ่งจะสั่งการให้มีการเริ่มต้นกระบวนการในการออกแบบ และก่อสร้างสถานทูตสหรัฐในกรุงเยรูซาเล็มที่คาดว่าจะใช้เวลาหลายปี และหากการก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะถือเป็นสัญญลักษณ์ใหญ่หลวงต่อสันติภาพในตะวันออกกลาง


2. ทั้งนี้ คำประกาศรับรองนครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงอิสราเอลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกมองว่าเป็นจุดชนวนความตึงเครียดโลกท่ามกลางความกังวลว่าจะนำไปปสู่สงครามความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่รุนแรงมากขึ้น

แต่ประธานาธิบดีทรัมป์กลับกล่าวว่า การตัดสินใจของเขาไม่ได้มีความประสงค์ที่จะขัดขวางกระบวนการสันติภาพ ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ โดยสหรัฐจะให้การสนับสนุนแนวทางในการตั้งรัฐปาเลสไตน์ และอิสราเอลควบคู่กัน หากทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องกัน

ขณะที่ประชาคมโลกส่วนใหญ่ไม่ยอมรับว่า เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล โดยเฉพาะอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของผู้นำสหรัฐ พร้อมกับเตือนว่าสถานะของเยรูซาเล็มต้องคลี่คลายผ่านการเจรจาโดยตรงระหว่างอิสราเอลกับ ปาเลสไตน์ โดยที่พูดมาตลอดที่จะคัดค้านมาตรการฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดๆ ที่จะสั่นคลอนสันติภาพของชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์


3. นอกจากนี้ รัฐบาลจอร์แดนระบุอย่างแข็งกร้าวว่า คำแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ถือเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งรัฐบาลจอร์แดนจะไม่ยอมรับการที่อิสราเอลเข้าไปยึดครองเยรูซาเล็มฝั่งตะวันออกที่ติดกับเวสต์แบงค์ จึงถือว่าการกระทำฝ่ายเดียวเป็นโมฆะ และไร้ผลในทางกฎหมาย

โดยที่รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดนได้ตำหนิผู้นำสหรัฐว่า สร้างความปั่นป่วนต่อกระบวนการสันติภาพ โดยเฉพาะสถานะของเยรูซาเล็มจะต้องมาจากการตัดสินใจของปาเลสไตน์และอิสราเอลโดยผ่านการเจรจาเท่านั้นขณะเดียวกันสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์แห่งจอร์แดนทรงเตือนในสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์ที่คิดจะทำนั้น จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาตอบโต้รุนแรงทั่วทั้งตะวันออกกลาง

ความเคลื่อนไหวต่อต้านนี้ยังบานปลายไปถึงแคนาดาและเม็กซิโกที่ออกมาประกาศว่า จะไม่ย้ายสถานทูตไปยังกรุงเยรูซาเล็ม โดยกระทรวงต่างประเทศแคนาดานะบุจุดยืนว่า สถานะของกรุงเยรูซาเลมนั้นจะกำหนดได้จากการเจรจาโดยสันติเท่านั้น เพื่อปูทางสู่กระบวนการสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ และเพื่อให้ภูมิภาคตะวันออกกลางเกิดสันติภาพที่ครอบคลุม ยุติธรรม และยั่งยืน ส่วนทางด้านรัฐบาลเม็กซิโกยืนยันว่า การตัดสินใจไม่ย้ายสถานทูตนั้นสอดคล้องกับมติของสหประชาชาติ


4. การตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ได้อ้างอิงตามหลักปฏิบัติตามกฎหมายปี 1995 ซึ่งกำหนดให้มีการย้ายสถานทูตสหรัฐไปยังกรุงเยรูซาเล็ม โดบที่ประธานาธิบดีสหรัฐหลายคนในช่วงก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นบิล คลินตัน จอร์จ ดับเบิลยู บุช หรือบารัก โอบามา กลับไม่ใช้คำสั่งดังกล่าว โดยเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายออกไป เพราะวิตกว่าจะจุดชนวนความขัดแย้งในตะวันออกกลางอีก

ขณะที่ชาวปาเลสไตน์ถือว่ากรุงเยรูซาเล็มที่ถูกอิสราเอลยึดครองมาตั้งแต่สงครามปี 1967 เป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต โดยที่ชาวปาเลสไตน์มีความหวังที่จะสร้างเมืองหลวงเป็นของตนเองขึ้นที่เยรูซาเลมฝั่งตะวันออก ส่วนอิสราเอลนั้นถือว่านครแห่งนี้เป็นเมืองหลวงตลอดกาลของชาวยิวที่แบ่งแยกไม่ได้ หลังจากมีการก่อตั้งประเทศอิสราเอลขึ้นในปี 1948


5. ส่วนผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลกอ่อนตัวลง โดยหุ้นเอเชียร่วงลงตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงเมื่อคืนวันพุธ นำโดยดัชนีหั่งเส็ง ฮ่องกงปิดช่วงเช้าลดลง 361.16 จุด หรือ 1.25% ส่วนดัชนีนิกเกอิร่วงลง 202.50 จุด หรือ 0.90% หุ้นอินเดียลดลง 0.01%

ขณะที่ดาวโจนส์ปิดที่ 24,140 ลดลง 39.73 จุด หรือ 0.16% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,629 ลดลง 0.01% แต่ Nasdaq ปิดที่ 6,776 เพิ่มขึ้น 0.21% เนื่องจากแรงกดดันโดยตลาดได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิ่งลงเกือบ 3% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินล่าสุดพุ่งขึ้น แม้ว่าสต็อกน้ำมันดิบมีอัตราลดลงก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 1.66 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 55.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลง 1.64 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 61.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ดัชนีค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงเล็กน้อยที่ 93.57 จากระดับ 93.62 ในวันก่อนหน้า