svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ม็อบค้าน พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม ปักหลักชุมนุมข้างทำเนียบฯ

06 ธันวาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ปักหลักชุมนุมข้างทำเนียบฯ ยืดเยื้อ รอคำตอบรัฐบาลจะแก้ไขร่าง พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อมหรือไม่ เนื่องจาก EIA เอื้อให้โครงการขนาดใหญ่เกิดเร็วขึ้น

วันนี้ (6 ธ.ค.) กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า เครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน มาจากประชาชนจากหลายภาค หลายจังหวัด ปักหลังชุมนุมอยู่ข้างทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้แก้ไขร่าง พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.  และจะปักหลักชุมนุมยืดเยื้อต่อไป ตามที่ได้ทำหนังสือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ 7 วัน ตามหลักเกณฑ์ ของพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 

โดยนายประสิทธิชัย หนูนวล เครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ก่อนหน้านั้นเขาเป็นแกนนำค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ บอกว่า ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ในส่วนว่าด้วยการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อย่างเร่งรีบ โดยไม่ยอมรับฟังข้อเสนอแนะของภาคประชาชน ที่ได้พยายามท้วงติงรัฐบาลถึงข้อบกพร่องของร่างกฎหมายฉบับนี้  ที่นอกจากจะไม่สามารถแก้ปัญหาของกระบวนการอีไอเอ และอีเอชไอเอ ที่มีอยู่เดิมได้แล้ว กลับเอื้อให้โครงการที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สามารถดำเนินการได้ง่ายและเร็วขึ้นอีก

นายประสิทธิชัย บอกว่า เมื่อเสียงของประชาชนถูกเพิกเฉย ไม่เคยถูกรับฟัง การชุมนุมกันวันนี้จึงจำเป็น เพื่อช่วยกันส่งเสียงของประชาชนให้ดังไปถึงหูผู้มีอำนาจ เพื่อยืนยันในจุดยืนของประชาชนว่าเราไม่เห็นด้วย และไม่ยอมรับร่างกฎหมายที่ไม่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมและชีวิตของประชาชน ฉบับแบบนี้

วันเดียวกัน กลุ่มนักวิชาการ ที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มนักวิชาการ เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน นำโดย รศ.ดร.ภิญโญ มีชำนะ ยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเทพา จ.สงขลา และเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาอนุมัติให้โครงการโรงไฟฟ้าเทพาได้เดินหน้าต่อ โดยมีนายสมพาศ นิลพันธ์ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรับมอบ 

และเมื่อพูดถึงโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ก็นับเป็นตัวอย่าง ของโครงการขนาดที่ต้องทำอีไอเอ ดร.ภิญโญ เห็นด้วยกับการแก้ร่าง พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม เพื่อให้การทำโครงการขนาดดำเนินการได้เร็วขึ้น เพื่อความเชื่อมั่น ของนักลงทุนให้กลับมา 

logoline