สืบสายตระกูล "คงมาลัย" บรรพบุรุษ "ตูน" มาจากที่นี่

ข่าวคราวแดนดินถิ่นสุพรรณ มีเรื่องของตระกูลใหญ่ ตระกูลดังเขาจัดงานรวมญาติ อบอุ่นยิ่งใหญ่ ไปด้วยญาติมิตรพร้อมหน้าพร้อมตา!

ส่องๆ ดูว่าบ้านไหนกัน ที่ทำเอาเมืองสุพรรณแทบแตก สรุปที่บ้านสวน ของ"ตระกูลคงมาลัย"ที่ ต.ไผ่ขวางนี่เอง ที่พวกเขาเพิ่งจัดงาน"วันไหว้บรรพบุรุษคงมาลัย"เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา

บางคนบอกก็ตระกูลของ"ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย"ก็ถูกต้องตามนั้น! เพราะรู้กันแล้วว่า ตูนนั้นพื้นเพเดิมอยู่ที่นี่ ก่อนตนเองจะย้ายไปตั้งรกรากที่กรุงเทพ และ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

แต่ที่จริง ตระกูลนี้เขาโด่งดังยิ่งใหญ่มานาน เป็นตระกูลเก่าแก่ที่อยู่คู่สุพรรณบุรีมาก่อนหน้านี้

และที่จัดงานใหญ่โตหนนี้ ก็ไม่ใช่ฝีมือของใคร แต่เป็นทพ.อนุศักดิ์ คงมาลัยหัวเรือใหญ่ของตระกูลรุ่นปัจจุบัน ที่ทำกันมานานทุกๆ ปีเป็นประเพณี ที่ทุกครั้งจะเป็นการญาติชนิดมากันครบ!

ทพ.อนุศักดิ์ คงมาลัย ขวามือ

ส่องไปดูในเฟซบุคเจ้าภาพงานคนนี้Anusak Kongmalaiระบุว่า ทำบุญประจำปี ที่บ้านสวนไผ่ขวาง ที่คุณปู่ไพโรจน์-คุณย่าวัฒนา ริเริ่มทำอนุสรณ์สถาน ให้ คุณเทียดย่งเซ้ง แซ่ตั้ง เตี่ยของ คุณทวดไล้-คู่ชีวิตของคุณทวด คง คงมาลัย ตั้งแต่ปี 2502

"และทำต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ เกือบ 60 ปีแล้ว จึงเป็นวันที่ลูกหลานได้มาพบหน้า พบตาพร้อมกัน ปีนี้ขาดครอบครัวลุงแดงอนุรัตน์ ป้าเต็นประนอม ไปร่วมกิจกรรมช่วยชาติที่พวกเรา เตรียมนัดกันต้อนรับอยู่อย่างจดจ่อ"

ซึ่งครอบครัวลุงแดง กับป้าเต็นประนอมไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คุณพ่อคุณแม่ของพี่ตูน บอดี้สแลม ฮีโร่ของคนไทยนั่นเอง

ว่าแล้วให้สนใจใคร่รู้ว่า ตกลงแล้วตระกูลนี้มีความเป็นมายังไง จะได้ไว้คุยว่าเป็น "แฟนพันธุ์แท้" ตูน บอดี้สแลม กับเขาบ้าง!

ไล่ดูต่อจิ๊กซอว์เอาจากเฟซบุคของ อนุศักดิ์ คงมาลัย ก็พบว่า นามสกุล "คงมาลัย" นั้นเป็นนามสกุลที่ตั้งขึ้นใหม่ โดย"คุณปู่ไพโรจน์"ที่มีชื่อเดิมว่า"ไคไซ แซ่โง้ว"ได้นำชื่อของบิดาของเขา คือนายคองเทียมกับมารดา คือนางไล้(มาลัย) มารวมกัน เป็น"คงมาลัย"

ดังนั้นจึงนับว่า คุณปู่ไพโรจน์ เป็นผู้ที่ใช้นามสกุลนี้เป็นคนแรกสุด!

แต่ที่จะเด็ดดวงมากขึ้นไปอีกของตระกูลนี้ คือ บรรพบุรุษแรกเริ่มของพี่ตูน คือ คนที่เดินทางมาจากแดนดินแสนไกลโพ้นแห่งท้องทะเล

นั่นเพราะคุณทวด "คง" ผู้ที่เกิดเมื่อปี 2430 และเป็นลูกคนที่ 5 หรือ คนสุดท้องของครอบครัวนั้น ได้ตัดสินใจเดินทางจากหมู่บ้านโซวแจ่ ชุมชนถ่ำปีโง้ว (ถ่าปีเฮีย) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนสาย เฉาโจว(แต้จิ๋ว)-ซานโถว หรือซัวเถา เพื่อมาตั้งรกรากที่ อำเภอบางปลาม้า จ.สุพรรณบุรีซึ่งก็แปลได้ว่า พี่ตูนของพวกเรามีดีเอ็นเอนักสู้จาก"ซัวเถา"ก็คงไม่ผิด!!

โดยภายหลังเมื่อเข้ามาสู่แดนสยามแล้ว คุณทวดคงได้ถวายตัวเป็นข้าในกรมของเสด็จเตี่ย หรือหมอพร กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยมีหลักฐานในปีที่พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อปี 2466 ออกไว้โดยเจ้าจอมมารดาโหมด พระมารดาของพระวรวงศ์เธฮพระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพยอาภาอีกด้วย

อย่างไรก็ดี ในบรรดาพี่ๆ ของคุณทวดคง ยังมีพี่ชายอีกสองคนที่เดินทางมาอยู่เมืองไทย โดยใช้นามสกุลนี้ทุกคน ยกเว้นคนที่เป็นผู้หญิงส่วนอีกสายหนึ่งคือสายของคุณย่า วัฒนา คงมาลัยขณะที่ยังมีสายของลูกพี่ลูกน้องของคุณปู่ ซึ่งมีบิดาเป็นพี่ชายคนหนึ่งของคุณทวดเทียมคงอีกด้วย

ชีวิตช่วงแรก ทวดคง และทวดไล้ คงมาลัย มีบ้านหลังแรกเป็นห้องแถวไม้ธรรมดาๆ ไม่ระบุที่ตั้ง แต่บอกว่าภายหลังย้ายจากตรงนั้น มาอยู่ที่ห้องแถวริมแม่น้ำท่าจีน ตรงข้ามวัดสวนหงส์

ซึ่งที่วัดนี้ ก็เป็นวัดที่บุตรชายของพวกเขา หรือ ปู่ไพโรจน์ ได้บวชเรียนเป็นพระช่วงปี 2483

คุณปู่ไพโรจน์ คงมาลัย ในชุดพ่อนาค เดินลงเรือข้ามฟากจากฝั่งตลาดบางปลาม้า ไปยังวัดสวนหงส์ซึ่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม

และจากเฟซบุค"ร้านดารา สองสี่แปดห้า ตลาดเก่าเมืองสุพรรณ"ยังได้บอกเล่าเรื่องราวเพิ่มเติมอีกว่าภายหลังที่ปู่ไพโรจน์สึกจากพระ ก็ได้ตัดสินใจย้ายออกมาจาก อ.บางปลาม้ามาตั้งรกรากที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณและก่อตั้ง "ร้านดารา" ขึ้นมา ตั้งอยู่เลขที่ 286 ข.ถนนพระพันวษา ต.ท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณ ในปี 2485 นั่นเอง

และรู้กันดีว่า ร้านดาราแห่งนี้ ถือว่าเป็นร้านของชำที่มีทุกอย่าง และจัดว่าใหญ่โตมากสุดแล้วของสุพรรณบุรี ส่วนสินค้าที่ว่าราคาแพง นั่นก็เพราะล้วนเป็นของดีมีคุณภาพ เช่น เฟอร์นิเจอร์ก็สั่งมาจากร้านรัตนแสงทอง สวนมะลิ กรุงเทพฯ ผ้าปู่ที่นอนก็แบรนด์แคนนอน

แถมยังมีสินค้าแบรนด์ของตนเองอีกด้วย เช่น ที่นอนดารา ที่ใช้นุ่นแท้ๆ ร้อยเปอร์เซนต์ ตู้เสื้อผ้าดารา โต๊ะเครื่องแป้งกระจกกลมดารา ฯลฯ

และแน่นอน ที่นี่เป็นต้นธารธุรกิจของตระกูลคงมาลัย ที่ทำให้ลูกหลานมีกินมีใช้เติบโต ต่อยอด แตกแขนงออกไปอย่างสมบูรณ์จนทุกวันนี้

ขณะที่ปู่ไพโรจน์เอง นอกจากจะเป็นพ่อค้านักธุรกิจใหญ่ของเมืองสุพรรรแล้ว ยังเป็นผู้กว้างขวางทางสังคม โดยยังเป็นประธานชมรมคนแรกของ สมาคมโรงสีข้าวสุพรรณบุรี ที่ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ปี 2510 ถึง 2526 อีกด้วย

บ้านเกิดของคุณทวดคง แซ่โง้ว ต้นตระกูล คงมาลัย ที่ชุมชนถ่ำปีโง้ว หมู่บ้านโซวแจ่ เมืองแต้จิ๋ว ซัวเถา ประเทศจีนถ่ายในปีพ.ศ. 2553 ปีคศ.ที่ระบุในภาพต้องเป็น 2010

วกกลับมาที่ "อนุศักดิ์ คงมาลัย" หรือ บุคคลที่เป็นต้นเรื่องนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดา

เพราะเขายังเป็นถึงอดีต ส.ว.สรรหา และยังมีธุรกิจในสุพรรณมากมาย เช่นบุกเบิกธุรกิจรีสอร์ทแห่งแรกของเมืองสุพรรณ วังยางรีสอร์ท โฮเทล แฮนด์ สปา",กรรมการผู้จัดการและกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร บริษัท โรงพยาบาลศุภมิต

และยังเป็นผู้ที่เคยได้รับรางวัลแทนคุณแผ่นดิน ปี 2557 จากการริเริ่มทำโครงการ"ลุงหมอชวนเรียนช่าง"เปิดโอกาสให้นักเรียนที่เรียนต่อสายสามัญมีปัญหาสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยไม่ได้เข้าเรียน ช่วยลดปัญหาโรงงานต่างๆ ขาดแคลนช่างฝีมือนั่นเอง

นอกจากนี้ หากไล่ดูไปเรื่อยๆ ยังพบภาพของตั๊ก บงกช เบญจรงคกุล (คงมาลัย)ที่แท็คทีมพร้อมเจ้าสัวบุญชัยและลูกชาย"น้องข้าวหอม"มาร่วมงานวันไหว้ บรรพบุรุษคงมาลัย ในวันนั้นด้วย

ซึ่งสำหรับตั๊ก บงกช นั้น ไล่ไปไล่มาก็พบข้อมูลว่า คุณปู่ไพโรจน์นั้น ยังมีน้องชายที่รู้จักนับถือกันมานาน ซึ่งเพิ่งตามมาจากเมืองจีนในภายหลัง โดยเป็นปู่ของตั๊กบงกช ที่ได้มาขอใช้นามสกุลร่วมด้วย

โดยเวลานั้น ปู่ไพโรจน์ก็มีลูกมีหลานราว 20 กว่า แล้วทุกคนใช้นามสกุลนี้เกือบหมด ส่วนคุณปู่ของตั๊กก็มีลูกมีหลานเหมือนกันโดยหลานๆ ของท่าน ก็ยังคงใช้นามสกุล "คงมาลัย" เหมือนกันจนถึงทุกวันนี้

และหากไล่ไปเรื่อย ก็แปลว่า อนุศักดิ์ผู้นี้ มีศักดิ์เป็น "ลุงของตั๊ก" และเป็น "อาของตูน" โดยตูนก็มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องแบบห่างๆ กับตั๊ก บงกช นั่นเอง

หาให้เจอว่าคนไหนคือพี่ตูนของพวกเรา

ดังนั้น ถ้าจะนับความเป็นคนเด่นคนดังแห่ง "ตระกูลคงมาลัย" เวลานี้ เห็นจะนับได้ 3 คือ อนุศักดิ์, อาทิวราห์ และ บงกช

แต่โดยเฉพาะเป็นพิเศษกับ "อาทิวราห์ คงมาลัย" เวลานี้น่าจะฮอตสุดในหมู่ญาติแล้ว!!