svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีเฉียดฉิว 51-49

04 ธันวาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยเสียงเฉียดฉิว 51-49 ได้สำเร็จเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 2 ธ.ค. ถือเป็นการปรับลดภาษีที่ช่วยคนรวยและบริษัทอเมริกัน ซึ่งนับเป็นร่างแก้ไขกฎหมายภาษีที่มีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 31 ปี ขณะที่ทรัมป์ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวใกล้ความสำเร็จของพรรครีพับลิกัน แต่แทนที่จะมีผลใช้บังคับในปี หน้า ก็ต้องเลื่อนไปใช้ในปี 2019


ทั้งนี้ เนื้อหาร่างกฎหมายปฏิปภาษีฉบับสภาสูงนี้ เสนอให้มีการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงที่ 20% จากอัตราเดิมที่ 35% แต่สำหรับครอบครัวคนอเมริกันและบุคคลธรรมดาได้รับการลดหย่อนที่น้อยมาก โดยยังคงยืนขั้นบันใดิตราภาษีที่ 7 ขั้นเท่าเดิมแต่ลดอัตราภาษีสูงสุดจาก 39.6% มาอยู่ที่ 38.5% ซึ่งแตกต่างจากร่างกฎหมายปฏิปภาษีฉบับสภาล่างของพรรครีพับลิกัน

ท่ามกลางทางการเหนือออกมากล่าวหาประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังเรียกร้องให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ เนื่องจากสหรัฐกำหนดแผนการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดร่วมกับเกาหลีใต้ในระหว่างวันที่ 4-8 ธ.ค.นี้ ภายใต้รหัส Vigilant Ace พุ่งเป้าไปที่เกาหลีเหนือ ซึ่งจะผลักดันให้เกิดความไม่แน่นอนในคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรงมากขึ้น


1. วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีด้วยเสียงเฉียดฉิว 51-49 ได้สำเร็จเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 2 ธ.ค. ถือเป็นการลดภาษีครั้งมโหฬาร ที่ช่วยคนรวยและบริษัทอเมริกัน ซึ่งนับเป็นร่างแก้ไขกฎหมายภาษีที่มีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 31 ปี ขณะที่ทรัมป์ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวใกล้ความสำเร็จของพรรครีพับลิกัน แต่แทนที่จะมีผลใช้บังคับในปี หน้า ก็ต้องเลื่อนไปใช้ในปี 2019

ขณะที่ในสื่อสหรัฐระบุว่า มี ส.ว.พรรครีพับลิกัน 1 คนที่ออกเสียงคัดค้านคือ Bob Corker จากเทนเนสซี ในขณะที่พรรคเดโมแครตออกมาประณามร่างกฎหมายฯที่ผ่านเรียบร้อยว่า เหมือนของขวัญวันคริสต์มาสให้พวกคนรวยและบริษัทข้ามชาติ แต่ผลักภาระให้คนอเมริกันชนชั้นกลางและที่มีรายได้น้อยให้ต้องแบกรับต่อไป ซึ่งสภา ส.ว.สหรัฐใช้เวลาเพัยง 91 นาทีในการถกอภิปรายผ่านร่างกฎหมายปีรูปภาษีดังกล่าว


2. เนื้อหาร่างกฎหมายปฏิปภาษีฉบับสภาสูงนี้ เสนอให้มีการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลงที่ 20% จากอัตราเดิมที่ 35% แต่สำหรับครอบครัวคนอเมริกันและบุคคลธรรมดาได้รับการลดหย่อนที่น้อยมาก โดยยังคงยืนขั้นบันใดิตราภาษีที่ 7 ขั้นเท่าเดิมแต่ลดอัตราภาษีสูงสุดจาก 39.6% มาอยู่ที่ 38.5% และยกเลิกการหลดหย่อนประเภทต่างๆ ที่คนเสียภาษีส่วนใหญ่ได้รับอานิสงส์ ซึ่งแตกต่างจากร่างกฎหมายปฏิปภาษีฉบับสภาล่างของพรรครีพับลิกันที่เสนอให้ลดขั้นบันใกภาษีเงินได้บุคคลลวที่ 4 ขั้น และยังคงอัตราภาษีสูงสุดที่ 39,6%

อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายปฎิรูปภาษีฉบับวุฒิสภา ได้มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญส่วนที่เป็นการลดหย่อนให้กับผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดาที่เป็นหัวใจในนโยบายประกันสุขภาพของโอบามาแคร์ ทำให้กฎหมายโอบามาแคร์ถูกยกเลิกไปโดยปริยาย หลังจากที่มีปัญหาขัดแย้งมานานนับตั้งแต่ความพยายามที่ไม่เป็นผลสำเร็จจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เสนอร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่มาตั้งแต่หลังเลือกตั้ง


3. ในการผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีที่มีการยกเลิก The Individual Mandate เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายโอบามาแคร์ ที่บังคับให้คนอเมริกันต้องซื้อประกันสุขภาพของตัวเอง เท่ากับว่าต้อจากนี้ไปจะไม่บังคับให้ต้องซื้อประกันสุขภาพ

หลังจากนี้ ร่างสุดท้ายที่จะออกออกจะมาจากการพิจารณาร่วมของทั้ง 2 สภา และนำกลับไปให้ทั้งสภาผู้อทนราษฎร (สภาล่าง) และวุฒิสภา (สภาสูง) ก่อนจะนำกลับมาสู่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเพื่อลงมติเห็นชอบในร่างกฎหมายงบประมาณฉบับของวุฒิสภาในสัปดาห์หน้า เพื่อที่จะส่งต่อให้ประธานาธิบดีสหรัฐจะลงนามบังคับใช้ต่อไป


4. ก่อนหน้านี้ วุฒสภาสหรัฐได้ผ่านงบประมาณในวงเงิน 4 ล้านล้านดอลลาร์สำหรับปี 2018 ด้วยคะแนนเฉียดฉิวที่ 51 ต่อ 49 โดยหวังจะใช้จ่ายเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงระยะเวลา 10 ปี ซึ่งยังคงเกิดความล่าชัาในด้านการปฏิบัติตามแผน

แต่ประธานาธิบดีทรัมป์คาดหวังว่าการปรับลดภาษีครั้งมโหฬารที่ทำให้รัฐบาลต้องขาดรายได้ไป 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ จะส่งผลให้มีภาระหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นต่อปีเป็น 1 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 10 ปีเช่นเดียวกัน จะคุ้มค่าหากสามารถทำให้เศรษฐดิจฟื้นตัวและมีอึตราการเติบโตทีระดับ 4.0% ต่อปี


5. ท่ามกลางคาบสมุทรเกาหลียังคงตึงเครียด เมื่อทางการเหนือออกมากล่าวหา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเรียกร้องให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ เนื่องจากสหรัฐกำหนดแผนการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดร่วมกับเกาหลีใต้ในระหว่างวันที่ 4-8 ธ.ค.นี้ ภายใต้รหัส Vigilant Ace โดยพุ่งเป้าไปที่เกาหลีเหนือ ซึ่งจะผลักดันให้เกิดความไม่แน่นอนในคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรงมากขึ้น

ทางการเกาหลีเหนือยังรtบุว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะมีขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยจะมีการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มากที่สุด ทั้งเครื่องบินขับไล่กว่า 230 ลำจากฐานทัพสหรัฐในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ซึ่เป็นเครื่องบินขับไล่แบบล่องหน F-22 Raptor จำนวน 6 ลำ และ F-35B รวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ B-1B จากเกาะกวม นอกจากนี้จะมีทหารสหรัฐถึงราว 12,000 นายเข้าร่วมการซ้อมรบครั้งนี้ด้วย

โดยที่สถานการณ์ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งในขณะนี้ หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามทวีปชื่อว่า Hwasong-15 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และย้ำว่าขีปาวุธดังกล่าวไปได้ทั่วทุกพื้นที่ของสหรัฐ


logoline