svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

3 วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ประกาศคัดค้าร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี

01 ธันวาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การแสดงละครการเมืองฉากใหญ่ของ 3 วุฒิสมาชิกสังกัดพรรครีพับลิกันประกาศคัดค้าร่างกฎหมายปฏอรูปภาษีส่งผลให้ต้องเลื่อนโหวตในวันศุกร์ พร้อมกระแสข่าวสะพัดทรัมป์เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจาก Rex Tillerson มาเป็น Mike Pompeo ผู้อำนวยการซีไอเอ กลายเป็น 2 ปัจจัยเสี่ยงที่นักลงทุนเริ่มจับตามองอย่างระมัดระวัง หลังจากดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 332 จุด ทำนิวไฮที่ 24,272 เมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา


ขณะที่ประานาธิบดีคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือออกมาท้าทายสหรัฐ ประกาศความสำเร็จในการยิงทดสอบขีปนาวุธเเมี่อวันที่ 29 พ.ย. โดยระบุว่าเป็นขีปนาวุธที่มีชื่อว่า Hwasong-15 ซึ่งมีศักยภาพบินไปไกลถึงกรุงวอชิงตัน หลังจากที่สามารถพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงถึงระดับ 4,475 กิโลเมตรเป็นเวลานานถึง 53 นาที ก่อนตกลงไปในทะเลญี่ปุ่นที่ห่างไป 950 กิโลเมตร

ทางด้าน UNSC เปิดประชุมฉุกเฉินเมื่อวันพฤหัสฯ โดยที่นิกกี้ เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็น เรียกร้องให้นานาประเทศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับเกาหลีเหนือ พร้อมเรียกร้องให้จีนหยุดการส่งน้ำมันดิบไปยังเกาหลีเหนือ โดยเตรียมเปิดประชุมระดับรัฐมนตรีเกี่ยวกับเกาหลีเหนือวันที่ 15 ธ.ค.นี้ด้วย


1. การแสดงละครฉากใหญ่ทางการเมืองเกิดขึ้นในห้องโถงของอาคารรัฐสภาสหรัฐ นานถึง 62 นาทีในระหว่างที่วุฒืสภาเตรียมประชุมพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี และหลังจาากที่ตลาดหุ้นปิดทำการซื้อขายไปแล้ว โดยที่ 3 วุฒิสมาชิกของพรรครีพับลิกันคือ Bob Corker ส.ว.จากเทนเนสซี Jeff Flake ส.ว.จากอริโซนา และ Ron Johnson ส.ว.จากวิสคอนซิน ประกาศคัดค้านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีดังกล่าว

แต่การที่ John McCain วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันเช่นเดียวกัน ประกาศให้การสนับสนุนร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีฉบับดังกล่าว ทำให้เกิดการเก็งกันว่าร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีจะผ่านเสียงโหวตในวันพฤหัสฯ ส่งผลให้ดาวโจนส์พุ่งขึ้นถึง 377 จุด แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 24,317 ระหว่างชั่วโมงซื้อขาย ก่อนปิดตลาดเพิ่มขึ้น 331 จุด หรือบวก 1.39% ที่ระดับ 24,272
รวมทั้งดัชนี Nasdaq กลับมาปิดบวก 0.73% ที่ 6,873 ขณะที่ S&P500 ปิดที่ 2,647 เพิ่มขึ้น 0.52%


2. ประเด็นที่้เป็นเสียงคัดค้านนั้น มุ่งไปที่การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% ลงที่ 20% ที่ระบุว่า จะทำให้รัฐบาลมีภาระหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ในขณะที่วุฒิสมาชิกในสังกัดพรรคเดโมแครตประกาศต่อต้านทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีความพยายามผลักดันให้การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลลงที่ระดับ 22% แทนที่จะเป็น 20%

ส่วนฝ่ายที่ให้การสนับสนุนบ่งชี้ว่า แผนการปฏิรูปภาษีที่จะทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียรายได้ถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์นั้น จะถูกชดเชยด้วยการกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวมากขึ้น ดังนั้น ต้นทุนที่รับบาลต้องแบกรับจากการสูญเสียรายได้ภาษีที่ทำให้ขาดดุลงบประมาณซึ่งจะเริ่มต้นในปี 2019 จะมีเพียง 4.58 แสนล้านดอลลาร์



3. อย่างไรก็ตาม การโหวตได้ถูกเลื่อนไปเป็รวันศุกร์นี้ โดยขณะนี้พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยมีจำนวนวุฒิสมาชิก 52 เสียงจากทั้งหมด 100 เสียง ซึ่งพรรครีพับลิกันต้องไม่ปล่อยให้สมาชิกพรรคเสียงหายไปมากกว่า 2 เสียง แต่ถ้ามีเสียงคัดค้านถึง 3 เสียงจากส.ว.ข้างต้นแล้ว โดยที่วุฒิสมาชิกสังกัดพรรคเดโมแครต และผู้สมัครอิสระต่างลงคะแนนคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าว

ดังนั้น ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีต้องได้คะแนนเสียงเห็นชอบ 50 เสียงจากพรรครีพับลิกันจึงจะผ่านกฎหมายแล้ว ต้องเรียกว่าเฉียดฉิวเต็มที เพราะต้องอาศัยเสียงโหวตของรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ มาเป็นคะแนนชี้ขาดในฐานะประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง



4. ขณะเดียวกันมีข่าวแพร่สะพัดว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนเปลี่ยนตัว รัฐมนตรีต่างประเทศจาก Rex Tillerson เป็นการแต่งตั้ง Mike Pompeo ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านกิจการระหว่างประเทศ มาแทนที่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเป็นรายงานจากนิวยอร์กไทมส์อ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาว

แต่รายงานข่าวก็ไม่ได้ชี้ชัดเจนว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ จะเห็นชอบในขั้นสุดท้ายด้วยหรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทักระแสข่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และ Rex Tillerson มีความขัดแย้งในนโยบายที่ใช้ปฏิบัติต่อกรณีความตึงเครียดในการยิงทดสอบขึปนาวุธของเกาหลีเหนือ และกรณีแก้ปัญหาเกี่ยวกับอิหร่าน

นอกจากนี้ นิวยอร์กไทมส์ยังระบุว่า จอห์น เคลลี หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว เป็นผู้ร่างแผนเปลี่ยนผ่านการบริหารในทำเนียบขาวภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ดังกล่าว หลังจากที่ได้ปรับเปลี่ยนคณะทำงานหลายชุดในช่วงที่ผ่านมาและที่จะมีขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้อีกส่วนหนึ่ง

สำหรับ Mike Pompeo เคยเป็นอดีตสมาชิกสภาคองเกรสมาถึง 3 สมัย โดยได้รับความไว้วางใจจากประธานาธิบดีทรัมป์ในด้านความมั่นคงแห่งชาติด้วย



5. ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC เปิดประชุมฉุกเฉินเมื่อวันพฤหัสฯ โดยที่นิกกี้ เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็น ได้เรียกร้องให้นานาประเทศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับเกาหลีเหนือ พร้อมเรียกร้องให้จีนหยุดการส่งน้ำมันดิบไปยังเกาหลีเหนือ โดยเตรียมเปิดประชุมระดับรัฐมนตรีเกี่ยวกับเกาหลีเหนือวันที่ 15 ธ.ค.นี้

การประชุมครั้งนี้ของ UNSC จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 13 ในปีนี้ หลังจากที่ประธาราธิบดีคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือออกมาท้าทายสหรัฐ ประกาศความสำเร็จในการยิงทดสอบขีปนาวุธเเมี่อวันที่ 29 พ.ย. โดยระบุว่าเป็นขีปนาวุธที่มีชื่อว่า Hwasong-15 ที่มีศักยภาพบินไปไกลถึงกรุงวอชิงตัน หลังจากที่จรวดขีปนาวุธสามารถพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงถึงระดับ 4,475 กิโลเมตรเป็นเวลานานถึง 53 นาที ก่อนตกลงไปในทะเลญี่ปุ่นที่ห่างไป 950 กิโลเมตร

logoline