นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเปิดงานเสวนาโอกาสความท้าทายอีอีซี เพื่ออนาคตประเทศไทย พร้อมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ อีอีซี เครื่องจักรในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ว่า โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ในพื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา ถือเป็นโครงการที่มีความสำคัญในแง่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจการลงทุนของไทย เพื่อให้เกิดวงจรลงทุนรอบใหม่
โดยรัฐบาลได้ส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวหลายด้าน เช่น สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ถือเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การเชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และการท่องเที่ยวเข้าด้วยกัน การให้สิทธิประโยชน์ทางการลงทุน เพื่อดึงดูดการลงทุนของภาคเอกชนและต่างชาติ รวมถึงการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ และรวมไปถึงการใช้พลังงานทางเลือก ควบคู่กับการตัดสินใจร่วมกับภาคธนาคาร ทั้งนี้ ยังมองว่า ปัจจุบันเราอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งประเทศไทยจะต้องเร่งปรับตัวให้ทันต่อสถานการร์โลกตลอดเวลา โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งโครงการอีอีซีจึงนับเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลพร้อมเดินหน้าและกำลังตอบโจทย์ทิศทางการลงทุนของโลกอยู่ในขณะนี้
จากนั้น นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ได้ขึ้นบรรยายพิเศษต่อในหัวข้อ การขับเคลื่อนอีอีซี เพื่อให้เกิดการลงทุนจริง โดยกล่าวช่วงหนึ่งว่า ขณะนี้นักลงทุนญี่ปุ่นให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมายังมีโอกาสหารือร่วมกับผู้แทนสำนักงานเจ โทรของญี่ปุ่น ซึ่งก็แสดงความเชื่อมั่นสนใจลงทุนในไทยด้วย นอกจากนี้ ในงานเสวนายังมีวิทยากรจากภาครัฐและเอกชนร่วมให้มุมมองกันอย่างหลากหลาย
นอกจากนี้ ยังมีวิทยากรจากภาครัฐและเอกชนร่วมให้มุมมองในหัวข้อ EEC : Gateway to ASEAN in perspective of Key Players ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะนำมาซึ่งทิศทางที่ชัดเจนในการลงทุน การพัฒนาเชื่อมโยงทุกๆ ภาคส่วน ตลอดจนเพื่อเป็นการหาแนวทางที่ดีในการชี้แนะนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ให้มีความมั่นใจต่อการลงทุนในเขตอาเชียนต่อไป