สำหรับการประกวดรอบสุดท้ายในปีนี้ กรรมการจะทำการคัดเลือกผู้เข้าสุดท้าย 12 คน และมากจากการโหวตอีก 4 คน รวมเป็น 16 คน ซึ่งการโหวตจะเป็นการโหวตแบบเรียลไทม์ และจะคัดเหลือ 10 คน และต่อด้วย 5 คน ที่จะต้องเป็นรอบตอบคำถาม จากนั้นก็จะเหลือ 3 คน และผู้ครองมงกุฏมิสยูนิเวิร์สเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งจากการซ้อมที่ผ่านมา มารีญา ได้เป็นตัวแทนในการยืน2คนสุดท้ายด้วย ทำให้เธอบอกว่ารู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากๆด้วย สำหรับการเรียงลำดับในปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงคือไม่ได้เรียงตามตัวอักษรทั้งหมด แต่จะแบ่งเป็นทวีป เรียงจาก ลาติน-อเมริกา ยุโรป และปิดท้ายด้วย เอเชีย-แปซิฟิก ซึ่ง มารีญา จะปรากฏตัวอยู่ในลำดับท้ายเลยๆ
สำหรับชีวิตการเป็นอยู่ในกองประกวด มารีญา ค่อนข้างที่จะทำได้ดี เป็นที่รักของเพื่อนๆนางงาม ซึ่งเธอบอกว่าประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องกองเชียร์ ทุกคนต่างชื่นชมกองเชียร์ของประเทศไทยว่าแข็งแกร่งและน่ารักมากๆ ทำให้เป็นกำลังใจที่ดีมากๆกับเธอ สำหรับเพื่อนสนิทของ มารีญา ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นสาวงามจากประเทศลาวนั่นเอง เพราะเป็นรูมเมทกันด้วย ทำให้มีอะไรก็ช่วยเหลือกันตลอด
และในปีนี้ หากประเทศไหนคว้ารางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมไปครองได้ก็จะต้องขึ้นโชว์ชุดประจำชาติอีกครั้งในวันจริงด้วย และรางวัลชุดประจำชาติก็เป็นอีกหนึ่งความหวังของประเทศเรา มารีญา บอกว่าแม้ว่าจะต้องวิ่งไปเปลี่ยนชุดหากได้รางวัล ก็จะต้องทำให้ดีที่สุด
และก่อนหน้านี่ มารีญา ได้เข้าให้สัมภาษณ์กับทางคณะกรรมการของกองประกวดเรียบร้อยแล้ว เธอบอกว่าส่วนมากคำถามก็จะถามเกี่ยวกับตัวเธอเอง ซึ่งไม่ใช่ปัญหาในการตอบ และก็จะมีคำถามที่ยากบ้างเกี่ยวกับการแก้ปัญหาสังคมในประเทศไทย แต่มารีญาก็บอกว่า มั่นใจในคำตอบ ว่าทำดีที่สุด และสุดความสามารถแล้ว
และเรื่องที่เธอกังวลใจมากที่สุดในตอนนี้ก็คงจะเป็นเรื่องของการตอบคำถามในรอบสุดท้าย เพราะอยากทำให้ออกมาดีที่สุด หากเป็นหนึ่งใน 5 ที่สามารถผ่านเข้าไปยืนตอบคำถามได้ เธอบอกว่าจพเอาความกดดันมาเป็นแรงผลักดันให้ทำออกมาให้ดีที่สุด สุดท้ายก็อยากจะขอบคุณแฟนนางงามที่คอยตามเชียร์ ตามให้กำลังใจกันมาตลอด เธอบอกว่ารับรู้ได้ถึงกำลังใจที่ทุกคนส่งมาให้ และเป็นแรงขับเคลื่อนที่จะสู้กับอีก 91 ประเทศได้เป็นอย่างดี และจะทำให้เต็มที่ ในการประกวดครั้งนี้ที่จะเกิดขั้นในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้