svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ทนายอัจฉริยะ"จี้ ยธ. แจงค่าใช้จ่ายคดี"ครูจอมทรัพย์" จวก รองปลัดฯ ปิดข้อมูล ขบวนการรับจ้างติดคุก

23 พฤศจิกายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ทนายอัจฉริยะ" จี้กระทรวงยุติธรรม แจกแจงค่าใช้จ่ายคดี "ครูจอมทรัพย์" จวกแหลก รองปลัดฯ ปกปิดข้อมูลขบวนการรับจ้างติดคุก ทำลายขบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง

     สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) - เมื่อวันที่ 23 พฤศิจกายน 2560 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายขบวนการรับจ้างติดคุกคดีครูจอมทรัพย์ หรือ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครู ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีขับรถชนคนตาย ซึ่งศาลฎีกายกคำร้อง เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา โดยระบุว่าตนเป็นเพียงคนเดียวในประเทศไทย ที่สวนกระแสสังคมว่า นางจอมทรัพย์ เป็นแกะ เป็นผู้ต้องหาที่ขับรถชนคนตายจริง ไม่ใช่แพะ ทำให้ตนและครอบครัว ถูกกระแสสังคมโจมตีตลอดช่วง 10 เดือน ที่รอการพิสูจน์ความจริงในศาล


        นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับนางจอมทรัพย์ เพียงแต่เห็นเขามาออกรายงานหนึ่ง พบพฤติกรรมพูดจาโกหก และตนเห็นตัวละครตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็น นายสับ วาปี , นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง และคนอื่นๆที่ออกมาพูดเท็จ จึงได้เอาประวัตินายสุริยา มาตรวจสอบและลงพื้นที่ โดยพบว่ามีประวัติเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าไม้พยุง และขบวนการหาคนไปติดคุก จึงรู้ว่านี่คือขบวนการรับจ้างติดคุก ขบวนการเหล่านี้ทำลายขบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งกระบวนการยุติธรรมที่ประกอบด้วย ตำรวจ อัยการ และศาล ถือได้ว่ายังมีความยุติธรรมอยู่ เพียงแต่ว่าขบวนการเหล่านี้มุ่งทำลายกระบวนการยุติธรรม โดยมีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้สนับสนุน ทุกคนทราบดีว่าคดีนี้ดราม่า มาจากสื่อช่องหนึ่งจนกลายเป็นกระแสสังคม จนกระทั่งมีหน่วยงานของรัฐฯ ที่ทราบกันว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับ รองปลัด ออกมาสนับสนุนอย่างออกหน้าว่า นางจอมทรัพย์ เป็นแพะ แต่เมื่อศาลยกฟ้องกลับออกมาแถลงข่าวว่า รู้ตั้งแต่แรกว่านางจอมทรัพย์ สร้างพยานหลักฐานเท็จตั้งแต่แรก


       "คุณเป็นรองปลัด คุณทำไมไม่ออกมาหยุดยั้งตั้งแต่วันแรก ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น กลับอ้างว่าพบหลักฐานใหม่ทางนิติวิทยาศาสตร์ มีการเอารถทะเบียน บค-56 สกลนคร มาตรวจสอบใหม่ มีการสวมป้ายทะเบียนและเปลี่ยนชิ้นส่วน เพื่อความมุ่งหวังทางคดี สร้างพยานหลักฐานเท็จยื่นต่อศาลในการรื้อฟื้นคดี และก่อนจะให้ศาลรื้อคดี ทั้ง 3 หน่วยงาน คือ ตำรวจ อัยการ และศาล ก็ตรวจสอบแล้ว ไม่พบร่องรอยการเฉี่ยวชน วันนี้จึงเอาหลักฐานมาให้ดูชัดๆว่า ป้ายทะเบียนเมื่อ12 ปีที่แล้ว กับป้ายใหม่ รวมถึงตัวหนังสือไม่เหมือนกัน ถ้ารองปลัดไม่ออกมายืนยันแต่แรกว่า นางจอมทรัพย์ เป็นแพะ ทั้งๆที่รู้แต่แรกแล้วว่าเป็นแกะ ถ้าวันนั้นรองปลัด แถลงต่อสื่อมวลชนหรือรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบว่า มีขบวนการรับจ้างติดคุก วันนั้นท่านจะสง่างามมาก และจะเป็นฮีโรของคนทั้งประเทศ แต่หลังจากท่านทราบกลับปกปิด และบอกว่าพบพยานหลักฐานใหม่ ถามว่าวันนี้จะทำอยางไร ผมไม่กลัวจะถูกฟ้องกลับ ยินดีพิสูจน์ด้วยกระบวนการยุติธรรม เพราะผมถูกสังคมตัดสินไปแล้วก่อนหน้านั้น ผมเคยพูดมาโดยตลอดว่าถ้า นางจอมทรัพย์ เป็นแพะ ตนพร้อมปิดชมรมฯ ยินดีให้ฟ้องเข้าเรือนจำ ไม่ต่อสู้คดี ที่สำคัญจะจ่ายเงินให้นายณัชพล สุพัฒนะ หรือมาร์ค พิทบูล ประธานชมรมมิตรภาพพิทบูล ที่ออกมาระบุว่านางจอมทรัพย์เป็นแพะ เป็นเงิน 1 ล้านบาท ด้วย"นายอัจฉริยะ กล่าว


   นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า อยากจะถามว่า 1.ตรงนี้จะทำอย่างไร งบประมาณแผ่นดิน ค่าคุ้มครองพยานที่จ่ายไป ขอเรียกร้องขอให้ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งกรรมการสอบ ว่ามีการนำเงินงบประมาณแผ่นดินไปใช้จำนวนเท่าไหร่ ค่าทนายความ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ใช้จ่ายไปกี่แสน กี่ล้านบาท ให้แจ้งต่อสาธารณชนได้รับทราบ , 2.ในการตรวจสอบขั้นตอนการรับเรื่องราวร้องทุกข์มีความละเอียดมากน้อยแค่ไหน ทำไมพยานทั้ง 2 ปาก คือนางทองเรศ วงศ์ศรีชา อายุ 52 ปี และนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ วัย 61 ปี ถึงออกมาระบุว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสร้างพยานเท็จมาให้เซ็นต์


  และ 3. ให้ตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ในกระทรวงคนอื่นๆรู้เห็นหรือช่วยเหลือหรือไม่ ถามว่าวันนี้ตนกล่าวหาใครตรงไหน ที่ต้องร้องเรียน เพราะต้องการให้ตรวจสอบการทำงานทั้งระบบ เพื่อไม่ให้กระทรวงยุติธรรมเป็นเครื่องมือของขบวนการมิจฉาชีพที่ทำลายขบวนการยุติธรรม 

logoline