svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

S&P500 ของสหรัฐ ทำนิวไฮที่ 2,601 อย่างเริงร่า

22 พฤศจิกายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

S&P500 ทำนิวไฮที่ 2,601 อย่างเริงร่า หลังจากที่มีหลักไมล์ใหม่พุ่งขึ้น 100 จุดจาก 2,500 สู่ 2,600 ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 67 วัน ขณะที่ Goldman Sachs ปรับคำทำนายหุ้นสหรัฐจะบูมต่อเนื่องไปในปี 2018 และงในช่วง 3 ปีข้างหน้านับจากนี้จนถึงปี 2020 โดยเดิมพันด้วยเหตุผล 2 ข้อคือ ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีสามารถบังคับใช้ได้เป็นจริง พร้อมกับสิ่งที่เรียกว่ามาจากการเนรมิตของบรรดาพ่อมด-แม่มด

ขณะเดียวกันดัชนีดาวโจนส์ และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮด้วยเช่นกัน จากแรงหนุนของผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยที่นักลงทุนเริ่มคลายวิตกกังวลต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มั่นใจว่า จะสามารถมอบการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ เป็นของขวัญให้กับคนอเมริกันในวันคริสต์มาสนี้

ทั้งนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนวันอังคารที่เป็นไปอย่างคึกคัก ได้ส่งผลต่อตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่งนำโดยดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกงที่พุ่งขึ้นในเช้าวันพุธยืนเหนือระดับ 30,087 ในรอบ 10 ปี


1. บรรยากาศของตลาเหุ้นวอลล์ สตรีท กลับมาเริงร่าเหมือนในยุคหุ้นฟองสบู่ดอทคอมอย่างที่ปู่อลัน กรีนสแปน อดีตประธานาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ให้คำนิยามไว้ในช่วงต้นทศวรรษ 2000

เมื่อดัชนี S&P500 ซึ่งเป็นตลาดหุ้นขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐพุ่งทำนิวไฮที่ 2,601 อย่างเริงร่า หลังจากที่มีหลักไมล์ครั้งนี้พุ่งขึ้น 100 จุดจาก 2,500 สู่ 2,600 ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 67 วัน


2. ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮด้วยเช่นกัน จากแรงหนุนของผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยที่นักลงทุนเริ่มคลายวิตกกังวลต่อร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มั่นใจว่า จะมอบการปรับลดภาษีครั้งใหญ่เป็นของขวัญให้กับคนอเมริกันในวันคริสต์มาสนี้

โดยที่ดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตลาดหลักของสหรัฐทะยานขึ้นสร้างสถิติใหม่พร้อมๆ กันเมื่อวันอังคาร ทั้งดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 23,590 เพิ่มขึ้น 160.50 จุด หรือ 0.69% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,599 เพิ่มขึ้น 16.89 จุด หรือ 0.65% โดยเฉพาะดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,862 เพิ่มขึ้น 71.76 จุด หรือ 1.06% อย่างร้อนแรง

โดยเฉพาะเป็นการปรับตัว้พิ่มขึ้นของหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple Amazon Facebook และ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ปิดบวกมากกว่า 1% ตามมาด้วยหุ้นกลุ่มประกันสุขภาพที่ขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง


3. ขณะที่ Goldman Sachs ปรับคำทำนายหุ้นสหรัฐจะบูมต่อเนื่องไปในปี 2018 และงในช่วง 3 ปีข้างหน้านับจากนี้จนถึงปี 2020 โดยเดิมพันด้วยเหตุผล 2 ข้อคือ ร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีสามารถบังคับใช้ได้เป็นจริง พร้อมกับสิ่งที่เรียกว่ามาจากการเนรมิตของบรรดาพ่อมด-แม่มด นั่นเอง

Goldman Sachs ปรับเป้าปี 2018 สู่ 2,850 จากที่เคยคาดไว้เดิมที่ 2,500 โดยที่ภาวะบูใของตลาดหุ้นสหรัฐจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปถึง 3 ปีจนถึงแ 2020 โดยาดการณ์เป้าหมายของดัชยี S&P500 จะอยู่ที่ระดับ 3,000 ในปี 2019 และที่ 3,100 ในปี 2020 เป็นการปรับเพิ่มขึ้นของผลติบแทนในแต่ละปีที่ 11%, 5% และ 3% ตามลำดับ


4. นอกจากนี้ Goldman Sachs วาณิชธนกิจอันดับหนึ่งของสหรัฐ ยังคาดการณ์ว่า ผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ที่จดทะเบียนในตลาด S&P500 จะแข็งแกร่งขึ้นอีกในปีงบการเงิน 2018 และ 2019 เนื่องมาจากการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจากอัตรา 35% มาอยู่ที่ 20% ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐที่มีความแข็งแกร่ง ขณะที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ดังนั้น ก้วยปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้กำไรต่อหุ้น หรือ EPS (Earnings Per Share) ของบริษัทต่างๆ เพิ่มขึ้นที่ 14% ในปี 2018 และเพิ่มขึ้น 5% ในปี 2019 โดยที่ baseline EPS ที่เพิ่มขึ้นจะมีระดับกลางๆ ที่ระดับ 5% ในปี 2018



5. ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนวันอังคารที่เป็นไปอย่างคึกคัก ได้ส่งผลต่อตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่งนำโดยดัชนีหั่งเส็งของฮ่องกงที่พุ่งขึ้นในเช้าวันพุธยืนเหนือระดับ 30,087 ในรอบ 10 ปี หริอเพิ่มขึ้นถึง 359 จุดหรือ 0.3% ส่วน Nikkei 225 ยังคงปรับตัวขึ้นในรอบ 25 ปี โดยเพิ่มขึ้นอีก 0.73% ที่ 22,581 เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเพิ่มขึ้น 0.5% ยืนเหนือ 3,427

รวมทั้งดัชนีหุ้นไทยที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทะลุถึง 1,720.55 เป็นบวกถึง 10.07 จุด โดยที่มูลค่าการซื้อขายมีความคึกคักมากกว่า 25,000 ล้านบาทหลังจากเปิดตลาดซื้อขายเพียง 1 ชั่วโมงในภาคเช้า ตามทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก

logoline