svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

หัวอกพ่อ "ไพวงษ์ เตชะณรงค์" การมุ้ง..ยุ่งกว่าการเมือง

04 พฤศจิกายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คนที่ลุ้นตัวโก่งสุดๆ ก็เจ้าพ่อโบนันซ่าวัยเก๋า "ไพวงษ์ เตชะณรงค์" ที่ตั้งแต่แรกเริ่มที่มีข่าวนี้ออกมากระตุกต่อมเผือกคนไทย ก็คนนี้แหละที่ออกตัวแรง


สำเร็จไม่สำเร็จ ! กลยุทธ์ง้อเมียของเจ้าพ่อโบนันซ่าวัยหนุ่ม "สงกรานต์ เตชะณรงค์" ในการงอนง้อศรีภรรยา แอฟ ทักษอร ที่งานนี้ทำเอาคนไทยลุ้นตัวโก่ง ราวกับดูละครสวรรค์เบี่ยงตอนจบ!
แต่ที่แน่ๆ คนที่ลุ้นพอๆ กันเห็นจะเป็นคุณพ่อสามี เจ้าพ่อโบนันซ่าวัยเก๋า "ไพวงษ์ เตชะณรงค์" ที่ตั้งแต่แรกเริ่มที่มีข่าวนี้ออกมากระตุกต่อมเผือกคนไทย ก็คนนี้แหละที่ออกตัวแรง ขอเป็นกาวใจเหนียวหนึบให้ทั้งคู่กลับมาแบบแฮปปี้เอนดิ้ง

ล่าสุดยังออกมาแจงกับทีมข่าวบันเทิงคมชัดลึกเลยว่า ที่ข่าวร้อนๆ ออกมาว่าพ่อแม่น้องปีใหม่ เซ็นใบหย่ากันไปแล้ว ป๋าไพวงษ์บอกเลย ไม่จริง! จะพูดไปทำไมมี!

จากนั้นก็เลี้ยวเข้าเรื่องธุรกิจโดยปู่น้องปีใหม่ยังบอกว่า ตอนนี้ลูกชายน่ะงานยุ่งหนักมาก และตนเองเพิ่งไปดูมา ก็ถึงกับอึ้ง!

"พอเราไปดูแล้วเรายังตกใจเลย คือมันเป็นเรื่องของลูกผู้ชายจริงๆ เขาทำงานไม่เป็นอันกินอันนอนเลยนะ เขาพิสูจน์ตัวเองว่าเขาทำโครงการใหญ่ๆ ได้ มิน่าล่ะเขาถึงทุ่มเทในการทำงานครั้งนี้มาก"

ก็ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุนี้หรือไม่ ที่ทำให้เกิดเรื่อง แต่ถ้าใช่ ! งานนี้สงสัยสะใภ้นางเอก ต้องเปลี่ยนมางอนพ่อสามีแทนแล้ว ค่าที่ใช้งานลูกชายจนบ้านเกือบแตก!

ว่าแล้วไปส่องดูความเป็นมาของกาวใจรุ่นใหญ่คนนี้กันดู ว่าก่อนจะมาใช้บั้นปลายชีวิตในขุมทองคำ และว่างๆ ก็เล่นโซเชียลกับหลานสาวคนเก่งแล้ว เขาทำอะไรมาบ้าง

แน่นอนเรื่องราวของคนระดับ "ไพวงษ์ เตชะณรงค์" ย่อมหาอ่านได้ไม่ยาก เพราะเขานั้นได้ชื่อว่าเป็นอีกเจ้าของตำนานการสร้างตัวคนหนึ่งของเมืองไทย

โดยเฉพาะที่อาณาจักรโบนันซ่า เขาใหญ่ ที่เจ้าตัวบุกเบิกมาด้วยน้ำพักน้ำแรง นอกเหนือจากเป็นกรรมการอีกกว่า 22 บริษัท

อย่างไรก็ดี ข้อมูลจากสำนักข่าวอิศราระบุว่า ทั้ง 22 บริษัทเลิกดำเนินการแล้ว จะมีก็คือ ในเครือโบนันซ่าซึ่งเปิดดำเนินการ 9 แห่งนั้นอยู่ในความดูแลของภรรยาและบุตร โดยมีสินทรัพย์รวมประมาณ 700 ล้านบาท

และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์คือ บริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) ขายและติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรับจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวมสินทรัพย์ 10 บริษัท ประมาณ 2,889 ล้านบาท

มีเพียงบริษัทเดียวที่ไพวงษ์ถือหุ้นคือ บริษัท แคลิฟอร์เนีย เรียลเอสเตท จำกัด และในจำนวนนี้บริษัท ซับม่วง จำกัด ประกอบธุรกิจค้าอสังหาริมทรัพย์ มีสินทรัพย์ 209 ล้านบาท และยังมีโครงการบ้านตากอากาศในโบนันซ่า ซึ่งให้บุตรชายคนโต หรือ "สงกรานต์" ดูแลอยู่ตอนนี้นั่นเอง

สำหรับภรรยาของป๋าไพวงษ์ คือ ภัสสรา เตชะณรงค์ และบุตร-ธิดาทั้ง 4 นั่นเริ่มจาก "สงกรานต์" ซึ่งเป็นผู้ดูแลสืบทอดกิจการโบนันซ่า กรุ๊ป บนเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ และโครงการบ้าน คอนโดมิเนียม

คนต่อมาคือ "ไพพรรณี" ลูกสาวที่ช่วยดูแลธุรกิจโบนันซ่าอีกแรง ขณะที่อีกสาวคือ "พัทธมน" ผู้ไปในถนนสายออกแบบและแฟชั่น

ส่วนลูกชายคนเล็ก "ภูผา" ดูแล 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจโบนันซ่า "เอ็กโซติกซู" แหล่งรวมสัตว์แปลกๆ หายาก และดูแลกิจการสนามทดสอบความเร็วโบนันซ่า ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังที่พื้นที่บุกรุกป่าสงวนอยู่ช่วงสองปีก่อน

สำหรับเส้นทางแรกเริ่มของไพวงษ์นั้น วัยเด็กเขาต้องดิ้นรนทำงานมาหลายอย่าง เช่นขายลอตเตอรี่อยู่ในสวนลุมพินี หรือเป็นบริกรตามร้านอาหาร

ที่เด็ดคือไปเป็นโรบินฮู้ดอยู่ในสหรัฐอเมริกา กระทั่งสร้างเนื้อสร้างตัว จนสามารถเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตที่นั่นได้

ที่สำคัญคือไม่ทิ้งการเรียน โดยเขาทำงานไปเรียนหนังสือไป จนจบปริญญาตรีด้านศิลปะ คือ Commercial art จากมหาวิทยาลัยวู้ดบิวรี่ ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย

จนเมื่อกลับมาเมืองไทย แรกเริ่มก็ทำเทรดดิ้ง ส่งสินค้าไปขายในอเมริกา กระทั่งเข้าสู่แวดวงอสังหาริมทรัพย์ โดยเริ่มดำเนินโครงการโบนันซ่าที่เขาใหญ่ เมื่อปี 2535 บนเนื้อที่รวมกว่า 5 พันไร่

ต้องเรียกว่าเป็นยุคบุกเบิกเพราะที่นั่นขณะนั้น น้ำไฟก็ยังเข้าไม่ถึง ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ เลย ที่ดินจึงมีราคาถูก จนเป็นความฝันที่เอื้อมถึงได้ไม่ยาก!

เขาเคยเล่ากับนิตยสาร Hello! ฉบับวันที่ 13 ธันวาคม 2555 ว่า ตอนที่กลับเมืองไทย สมัยนั้นฮิตสวนเกษตร ก็เลยเริ่มต้นซื้อที่ดินแถวองครักษ์ 600 ไร่ และจัดงานเปิดตัวที่ปาร์คนายเลิศ

ปรากฏว่า คืนเดียวขายที่ได้หมดเกลี้ยง เพราะซื้อมาถูก แต่ก็ขายไปไม่แพง คือ ซื้อมาไร่ละ 20,000 บาท ก็นำมาขาย 2 ไร่ 8 แสนบาท ตอนนั้นเสี่ยไพวงษ์กลายเป็นเศรษฐีได้กำไรมาเกือบ 200 ล้านบาท!

ที่สุด จึงได้มีเงินก้อนมาลงทุนที่โบนันซ่า และรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้ จนรู้กันดีว่า ระดับป๋าไพวงษ์ นั้น เป็นคนกว้างขวาง กับทุกสีทุกฝ่าย คือ มีสายสัมพันธ์อันดีกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง

แถมที่โบนันซ่าแข็งแกร่งได้ทุกวันนี้ ก็เพราะว่ามีลูกค้าเป็นนักการเมือง ตำรวจ ทหาร เกื้อกูลกันมาโดยตลอด ก็อย่างที่รู้กันว่า ปู่น้องปีใหม่คนนี้ก็เคยโลดแล่นบนถนนการเมืองนั่นเอง

นอกจากนั้น เขายังเป็นคอลัมนิสต์ เจ้าของนามปากกา "ไก่ชน" และยังเป็นประธานบริษัท ลูกทุ่ง เอฟ.เอ็ม.จำกัด ประธานหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์รายวัน บางกอกทูเดย์ และในทางสังคมยังเป็นนายกสมาคมต่างๆ สมาชิกกิตติมศักดิ์ในสถาบันต่างๆ อีกมากมาย

คือพูดเลยว่าใหญ่มาก !! ถึงขนาดช่วงปี 2557 คสช. ยังต้องนัดมีตติ้งเลย จำได้หรือไม่!

หรืออีกทีตอนปี 2558 ไพวงษ์เจอคดีอาณาจักรโบนันซ่าบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน และที่ดินส.ป.ก.ที่เขาใหญ่ ตอนนี้ก็ยังเงียบๆ เหมือนว่าจะยังไม่จบ

ก่อนจะมามีเรื่องของคนในครอบครัว ที่ดูว่าจะร้อนแรงกว่าเรื่องใดๆ ในเวลานี้!

logoline