เปิดแผนปฏิรูปภาษีของทรัมป์ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

มารู้จักว่าที่ประธานเฟดคนใหม่มีสินทรัพย์เทียบชั่นเศรษฐีเงินล้าน หลังจากที่เจอโรม เพาเวล มีการเปิดเผยฐานะสินทรัพย์ในขณะนี้มีจำนวน 21-61 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากเขาเคยอยู่ในธุรกิจภาคการเงินผ่านการเป็น Investment Banker และเป็นหุ้นส่วนของ Carlyle Group ที่มีฐานะเป็นกองทุนส่วนบุคคลในตลาดหุ้นสหรัฐมาก่อน

ขณะที่ตลาดหุ้น Nasfaq เริ่มปรับตัวลดลงเป็นวันที่สอง สวนทางดาวโจนส์ ถึงแม้ว่า หุ้น Apple ยังคงนำตลาดปรับตัวสูงขึ้น จนทำให้มูลค่าหุ้นตามมาร์เก็ตแคปพุ่งทะลุระดับ 9 แสนล้านดอลลาร์ เป็นหุ้นที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก


1. ส.ส.พรรครีพับลิกันเตรียมนำร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีจำนวน 429 หน้า เข้าสู่การพิจารณาในการประชุมในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ปรับลดภาษีนิติบุคคลลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 35% และลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลจาก 7 ขั้นบันไดเหลือเพียง 4 ขั้นโดยคงอัตราสูงสุดที่ 39.6% เอาไว้ หวังใช้กระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มอำนาจการซื้อของครัวเรือนมากขึ้น
แต่จะส่งผลรัฐบาลของทรัมป์ขาดดุลถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะ 10 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม พบว่าตัวอย่างของครัวเรือนชาวอเมริกันที่มีรายได้ถาวรราว 59,000 ดอลลาร์จะได้รับประโยชน์ทางภาษีถึง 1,182 ดอลลาร์


2. สำหรับรายละเอียดของร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ประกอบด้วยสาระสำคัญคือ การปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 35% นอกจากนี้ ยังจะมีการปรับระบบจัดเก็บภาษีระหว่างประเทศที่มีความทันสมัย โดยจัดเก็บภาษี 10% กับธุรกิจที่ทำกำไรในต่างประเทศ เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงเสียภาษีโดยโอนกำไรไปยังต่างประเทศ
ในส่วนที่เป็นภาษีธุรกิจจะปรับลดอัตราภาษีสูงสุดให้กับธุรกิจขนาดย่อม และองค์กรที่ไม่ใช่ภาคธุรกิจลงที่ 25% จากระดับ 39.6% ในปัจจุบัน
ส่วนการปรับลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะลดขั้นบันไดของอัตราภาษีจาก 7 ขั้น เหลือ 4 ขั้นคือ 12%, 25%, 35% และ 39.6% โดยเก็บอัตราสูงสุดคงเดิมเอาไว้ รวมทั้งเพิ่มการหักลดหย่อนให้กับผู้มีเงินได้ที่ 12,000 ดอลลาร์ จากเดิมจำนวน 6,350 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นเป็น 24,000 ดอลลาร์ จากเดิม 12,700 ดอลลาร์สำหรับคู่สมรส และยังเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีสำหรับเด็กอีก 1,600 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 1,000 ดอลลาร์
รวมถึงการหักลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยในการผ่อนชำระบ้านในปัจจุบัน ซึ่งหากเป็นบ้านซื้อใหม่จะเป็นการจำกัดเพดานหักลดหย่อนไว้ที่ 500,000 ดอลลาร์ อีกทั้งจำกัดการหักลดหย่อนภาษีอสังหาริมทรัพย์ของรัฐและท้องถิ่นได้ 10,000 ดอลลาร์


3. ขณะเดียวกันประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเสนอชื่อเจอโรม พาวเวล ให้เป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ ต่อจากเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะครบวาระในเดือน ก.พ. 2018 โดยแถลงที่ทำเนียบขาวว่า เจอโรม พาวเวล ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการเป็นหนึ่งในผู้กำหนดนโยบายการเงินที่ดี จากประวัติการทำงานที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจถึงความรอบรู้และความเป็นผู้นำ ซึ่งจะช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจก้าวผ่านอุปสรรคและความท้าทายไปได้
เจอโรม พาวเวล ในวัย 64 ปีและเป็นผ๔เว่าการเฟดปัจจุบันถูกมองว่า เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการสนุบสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธืบดีทรัมป์ เนื่องจากมีแนวคิดสายพิราบที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมๆ กับการเปิดกว้างในการผ่อนคลายและลดกฎระเบียบทางภาคการเงิน ซึ่งตรงกับแนวทางของคณะทำงานในทำเนียบขาวที่พยายามผลักดันเรื่องนี้มาตลอด


4. มารู้จักว่าที่ประธานเฟดคนใหม่มีสินทรัพย์เทียบชั่นเศรษฐีเงินล้าน หลังจากที่เจอโรม เพาเวล มีการเปิดเผยฐานะสินทรัพย์ในขณะนี้ก่อนที่จะได้รับการพิจารณาของวุฒิสภา มีจำนวน 21-61 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากเขาเคยอยู่ในธุรกิจภาคการเงินผ่านการเป็น Investment Banker และเป็นหุ้นส่วนของ Carlyle Group ที่มีฐานะเป็นกองทุนส่วนบุคคลในตลาดหุ้นสหรัฐตั้งแต่ปี 1997 ก่อนที่จะเข้าไปร่วมงานในกระทรวงการคลังสหรัฐในปี 2005
ต่อมาได้เข้าไปเป็นสมาชิกของเฟดและเป็นผู้ว่าการเฟด โดยวุฒิสภาสหรัฐมีมติเมื่อปี 2014 ให้เจอโรม พาวเวล ดำรงตำแหน่งในเฟดต่อไปเป็นระยะเวลาถึง 14 ปีจนถึงปี 2028
สำหรับทางด้านการศึกษานั้น เจอโรม พาวเวล สำเร็จการศึกษาในสาขาการเมืองจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน และด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ จึงถือเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่ประธานเฟดที่ไม่ได้เป็นนักเศรษฐศาสตร์


5. ขณะที่ตลาดหุ้น Nasfaq เริ่มปรับตัวลดลงเป็นวันที่สอง สวนทางดาวโจนส์ ถึงแม้ว่า หุ้น Apple ยังคงนำตลาดปรับตัวสูงขึ้น โดยพุ่งขึ้นถึง 3% เพียงช่วงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ทิม คุก ซีอีโอของ Apple ซึ่งร่วมประชุมในกรุงปักกิ่ง ประกาศว่า ยอดขายของ iPhone 8 และ X จากบรรดาเทรดเดอร์ชี้ว่า จะยังคงแข็งแกร่งในภาพรวมช่วงไตรมาสสุดท้ายที่มีวันหยุดยาวนี้ ทะลุ 47 ล้านเครื่อง สูงจากที่คาดการณ์ไว้ 46 ล้านเครื่อง
มูลค่าหุ้นตามมาร์เก็ตแคปของ Apple พุ่งขึ้นที่ระดับ 9 แสนล้านดอลลาร์ อีกเพียง 1 แสนล้านดอลลาร์ก็จะแตะที่ระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ซึงเคยเป็นเป่หมายที่ทาง Apple ได้เคยประมาณการไว่ในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้