Chic-in : ตลาดน้อย ท่องเที่ยวชมวิถีชุมชนจีนโบราณและประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ในทริปนี้ ผมใช้บริการรถเช่าของ Budget Thailand โทรไปสอบถามดูครับ 02 203 9222 ทาง Website www.budget.co.th , Facebook : BudgetThailand, Line: @budgetthailand โดยรอบนี้ผมใช้รถอีโค่คาร์ เพราะสะดวก สบายในการเดินทาง

เริ่มที่ร้านซาลาเปาวาฟเฟิ้ล เข้าซอยมาอยู่ขวามือ กับซาลาเปาหนีบด้วยเครื่องทำวาฟเฟิ้ล กรอบนอก นุ่มใน ไส้เป็นไส้ซาลาเปา ตัวแป้งซาลาเปาพอโดนหนีบด้วยเครื่องทำวาฟเฟิ้ลให้ความกรอบ หวาน อร่อยขึ้นอีกจากซาลาเปาธรรมดา กับไส้หมูสับ ไส้ครีม ไส้ถั่วแดง โอยยย อร่อยครับ ร้อนๆนี่ สุดๆ

เดินเข้าไปในซอยไม่ถึง 50 เมตร ต่อกันด้วย กะหรี่ปั๊บคุณปุ๊ เป็นกะหรี่ปั๊บเจ้าดังในกรุงเทพเลยทีเดียว จุดเด่นที่ได้ซื้อมาชิมบอกได้เลยว่า ไส้อร่อย แป้งบาง ไม่อมน้ำมัน กรอบทน กรอบนาน ยิ่งได้กินร้อนๆจากกระทะ พักซักหน่อย กัดเข้าไป ฟินนนนน ไส้อุ่นๆ รสอร่อย แป้งกรอบบาง ด้วยราคาชิ้นละ 8 บาท ลูกค้าที่มาซื้อทีละ 10-20 ชิ้น เป็นกล่องๆ ไส้ไก่ ขายดีสุด ไส้เผือก ไส้ถั่วหวาน ถั่วเค็ม ไส้สับปะรด สอบถามเพิ่มเติม โทร.0-2237-5425 และ 08-0602-2055

เดินจนสุดทางเลี้ยวขวาและทางด้านซ้ายจะเจอร้านอีกร้านนึง ขายก๋วยเตี๋ยว กับปอเปี๊ยะสด มาถึงแล้วต้องจัด ร้านดูธรรมดาๆ แต่ ปอเปี๊ยะสดร้านนี้เด็ดมาก ราดน้ำตามด้วยพริกดองกับต้นหอมมา กับเส้นเล็กต้มยำพิเศษ ไม่ต้องปรุงกันเลย รสเด็ด กับเย็นตาโฟ

ทะลุออกถนนเจริญกรุง เก็บภาพบรรยากาศกับตึกเก่า ออก ถนนทรงวาด วกเข้ากลับไปที่ ศาลเจ้า โจวซือก๋ง

ชมแผนที่ตลาดน้อยข้างทางเก๋ๆ ถ่ายรูปได้หลากหลายมุม

ศาลเจ้าโจวซือกง(วัดซุนเล่งยี่) เป็นศาลเจ้าเก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของชาวจีนฮกเกี้ยนในประเทศไทย สร้างขึ้นประมาณปี ค.ศ.๑๘๐๔ (พ.ศ.๒๓๔๗) ตั้งอยู่ในย่านตลาดน้อย ซอยวานิช ๒ โดยเป็นที่ประดิษฐานของพระเซ่งจุ๊ยจ้อซือ และเทพเจ้าอื่นๆที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือ อาทิ พระไทจื่อเอี๋ย เจ้าพ่อกวนอู เจ้าแม่ทับทิม เจ้าพ่อเสือ และที่สำคัญมี สามสิบหกเทพเจ้า อยู่อีกด้วย

ลักษณะทางสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นแบบปลายราชวงศ์ชิง (ค.ศ.๑๕๘๙-๑๙๑๑) ถึงแม้จะมีการซ่อมแซมหลายครั้งแต่ก็คงแบบอย่างเดิมไว้ได้อย่างดีเยี่ยม หลังคาศาลเจ้าเป็นแบบซานเหมินติ่ง บริเวณบนสุดบนสันหลังคาประดับด้วยมังกรคู่ชูลูกแก้ว และหงส์ คู่ชูดอกโบตั๋น ลวดลายประดับประดาต่างๆล้วนมีความสวยงามยิ่งคู่ควรแก่การอนุรักษ์ให้ชนรุ่นหลังสืบต่อไป

ห้องโถงภายในเป็นที่ประดิษฐานของ "หลวงปู่โจวซือกง" มีลักษณะเด่นทั้งองค์เป็นสีเปลือกมังคุด ห่มคลุมด้วยจีวรแบบพระนิกายจีนสีเหลืองอร่าม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธา

ด้วยบรรยากาศริมแม่น้ำนั้นสวยงาม เงียบสงบยิ่ง

ย้อนกลับออกมาเลี้ยวซ้ายซักนิด หรือถามพี่น้องแถวๆนั้นก็ได้ครับว่า สำนักดำน้ำ หรือ บ้านโซวเฮ่งไถ่ เป็นคฤหาสเก๋งจีนในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ อายุกว่า 200 ปี ยังคงรักษารูปแบบสถาปัตยกรรมแบบเดิมไว้ และเพิ่มสระสำหรับเรียนดำน้ำไว้ตรงกลางบ้าน

โดย สามารถเข้าชมได้ และยังมีเครื่องดื่มและขนมให้บริการเป็นคาเฟ่เล็กๆ เก๋ๆกับบรรยากาศเก่าๆ นั่งซึมซับบรรยากาศได้ด้วย สั่งเครื่องดื่มมาพร้อมข้าวต้มมัดสูตรเด็ดของทางร้านครับ

เดินเล่นแถวนั้น กับงานเพ้นท์กำแพง ริมทางทั่วๆไป มีมุมถ่ายรูปเยอะเลยครับ มุมสวยๆเยอะมากครับ แปลกตาดี

จนเดินมาถึง เป็ดตุ๋นเจ้าท่า ร้านเป็ดพะโล้เจ้าดัง ในตำนาน ต้องลองครับ

จัด ข้าวหน้าเป็ด บะหมี่เป็ด และ เส้นหมี่กะเฉดทะเลรวม อร่อยทุกอย่างครับ ร้านปิดวันอาทิตย์วันเดียว เปิด 8.30-14.30 กว่าๆหมดก็ปิดแล้วครับ ถ้ามาเดินเล่นแถวตลาดน้อยผมแนะนำเจ้านี้ครับ

ต่อกันที่โบสถ์กาลหว่าร์ หรือ วัดแม่พระลูกประคำ (อังกฤษ: Holy Rosary Church) เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ทรงกอทิกตั้งอยู่ที่ซอยวานิช 2 แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร โบสถ์แห่งนี้ไม่ใช่โบสถ์หลังแรก หากแต่เป็นโบสถ์หลังที่สาม ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อทดแทนโบสถ์หลังเดิมที่ถูกทิ้งร้างภายหลังเพลิงไหม้ใหญ่ในปี พ.ศ. 2407 โบสถ์ในปัจจุบันได้สร้างขึ้นโดยคุณพ่อแดซาลส์ ชาวฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2434 ปัจจุบันโบสถ์มีอายุรวมแล้ว 126 ปี ถือเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์

เดินเลยมาหน่อยจะเจอท่าเรือสี่พระยา ข้ามไปจะเป็นตลาดท่าเรือคลองสาน แถวอีกหน่อยครับ ข้ามไปเดินเล่นกัน เดินผ่านตลาดนัดออกไป เจอกับตลาดโล่งๆอีกที่ เจอกับ อิ่วก๊วย คล้ายๆซาโมซ่าทอดในแบบจีน อร่อยครับ มีไส้เยอะมากทั้ง กุ่ยช้าย หน่อไม้ เผือก กะหล่ำปลี ถั่วเหลือง มันแกว ชิ้นละ 10 บาท อร่อยครับ

ตามด้วยน้ำจับเลี้ยง หอม หวาน เจ้าอร่อย มีขายทั้งใส่น้ำแข็ง ใส่แก้ว ใส่ถุงเฉพาะน้ำ แยกต่างหาก หอมหวาน เย็นชื่นใจ ครับ

ต่อด้วย บัวลอยไข่เค็มไข่หวานเจ้าดังครับ มีทั้งบัวลอย ที่ใส่ไข่เบิ้ล ใส่ไข่คู่ เนื้อแป้งอ่อย นุ่ม กะทิหอมมัน ไข่แดงเค็มหอมมัน ไม่มีกลิ่นคาว ไข่หวานนุ่มอร่อย ได้ชิมบัวลอยเจ้าอร่อยแล้ว สั่งกลับบ้านมาหลายถุงแล้ว ก็ได้เวลากลับบ้านแล้ว

จบทริปนี้ด้วยการซื้อบัวลอยไข่คู่กลับบ้าน เพลิดเพลิน อิ่มอร่อย ได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ริมน้ำเจ้าพระยา ได้ของอร่อยกลับบ้าน กับตวามทรงจำที่มีความสุขครับ 
ไว้พบกันใหม่ทริปหน้านะครับ จาก #น้าคม #ChicIn
สามารถติดตามได้ทางเพจ Facebook https://www.facebook.com/deliciouspin/