ซึ่งจะประกอบไปด้วย แชมป์ฟุตบอลไทยลีก, แชมป์ฟุตบอลรายการโตโยต้าลีกคัพ และแชมป์ฟุตบอลในรายการช้างเอฟเอคัพ หลังจากปี 2016 บุรีรัมย์ยูไนเด็ด อยู่ในสภาพที่บอบช้ำ เพราะไม่มีถ้วยรางวัล ที่จะเป็นผลงานของตัวเองอย่างเต็มภาคภูมิ
และบทสรุปของฤดูกาล 2017 ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือนพฤศจิกายน ก็คือ การที่จะครองแชมป์ไทยลีก เพียงรายการเดียว ขณะที่ฟุตบอลถ้วย ทั้ง 2 รายการ ที่ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถรักษาโอกาสให้กับตัวเอง เพราะตกรอบ 8 ทีม ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้าลีกคัพ ที่แพ้ให้กับคู่ปรับตลอดกาล อย่างเอสซีจีเมืองทองยูไนเต็ด ที่บุกมาชนะถึงถิ่น 2-0 ส่วน ช้างเอฟเอ คัพ เป็นการแพ้ในเกมออกไปเยือน สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด 1 -0
เมื่อกลับไปดูที่ตาราง ไทยลีก ถึงขณะนี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงแข่งไป 31 นัด ชนะ 24 เสมอ 5 แพ้ 2 มีคะแนน อยู่ในมือ 77 แต้ม ถือว่านำห่าง และแต้มมากพอ จนกล้าประกาศการเป็นแชมป์ล่วงหน้า ด้วยการขอเพียง 1 แต้ม ในเกมพบกับโปลิศเทโร เอฟซี วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน
แน่นอนว่า 1 ถ้วย ที่ได้มาของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มันสะท้อนอะไรได้หลายอย่างครับ กับวิถีฟุตบอลไทย ในยุคที่ทุกทีม โดยเฉพาะในกลุ่มท็อปไฟว์ของไทยลีก ต่างมีเป้าหมายอยู่ที่การแย่งแชมป์ และมันก็ทำให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบกับความยุ่งยากมากขึ้น
สิ่งที่ประกาศออกไป ถึงถ้วยแชมป์ทั้ง 3 รายการ ถูกแทนที่ด้วยความพ่ายแพ้ ในแบบคาดไม่ถึง ย้อนไปที่ฤดูกาล 2016 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อยู่ในสภาพช้ำทั้งทีม ด้วยสภาพผู้เล่นที่บาดเจ็บสะสม จนมีผลมาถึงการทำผลงานทั้งฤดูกาล
ขณะที่ 2017 การก้าวไปสู่ความเป็นแชมป์ สิ่งที่ "ปราสาทสายฟ้า" ทำลงไปก็คือ การเปิดพื้นที่เพื่อให้ นักฟุตบอลเยาวชนที่เป็นผลผลิตของอะคาเดมี่ ได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ งบประมาณที่วางเอาไว้ตลอดปีกับการลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ที่คุณเนวิน เคยประกาศ เอาไว้ ถึงที่สุดแล้วไม่น่าจะถึงครับ
เพราะการเสริมผู้เล่นในแบบค่อยเป็นค่อยไป ต่างไปจากในรายของการซื้อผู้เล่นเข้าสู่ทีมจากทางฝั่ง "เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด" ที่เราอาจจะเห็นถึงความ"เป็นน้ำเป็นเนื้อ" ได้มากกว่า ด้วยเหตุนี้ มันจึงทำให้การ "สไตร์แบค" สำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือ การไปไม่ถึงปลายทางอย่างที่ต้องการ
มีเพียงถ้วยไทยลีกเท่านั้น ที่จะปลอบใจให้กับ มหาอำนาจลูกหนังจากภาคอีสาน ว่าไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า ..... มีอะไรข้องใจ คงต้องรอกันปีหน้าสำหรับแฟนคลับ"ปราสาทสายฟ้า" ที่ตามลุ้นตามเชียร์
บทสรุปของฤดูกาลนี้ ทำให้เห็นว่าทุกทีมต่างมีโอกาสมากยิ่งขึ้น ที่จะก้าวไปสู่การเป็นแชมป์ และแน่นอนว่า ฤดูกาลหน้า ผมกำลังคิดอยู่ว่า คุณเนวิน จะใช้ศัพท์อะไร ที่จะสร้างบรรยากาศของไทยลีก หลัง "สไตร์คแบ็ค" จบลงไปในลักษณะที่ไม่สมบูรณ์แบบ