svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

พาชมบ้านพักท่านทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย

24 กันยายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สัปดาห์ที่สาม ของ เดือนกันยายน ของทุกปี ตรงกับวันมรดกยุโรป สถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ก็ได้เปิดทำเนียบที่พักของเอกอัครราชทูต ฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย ให้ผู้ที่สนใจเข้าชม โดยเปิดมาเป็นครั้งที่ 34 แล้ว ตามคุณกระแต ทิวาพร ไปเที่ยวบ้านท่านทูตกัน

ไทยกับฝรั่งเศสเริ่มมีความสัมพันธ์ระหว่างกันตั้งแต่ รัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้ส่งราชทูตมาเจริญสัมพันธไมตรี หลายคณะ
ในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันโดยการลงนามในสนธิสัญญาทางไมตรี การค้า และการเดินเรือ ในปี ค.ศ.1856 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และพระจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 และยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อรัชสมัยของ รัชกาลที่ 5 ที่พระองค์เสด็จประภาสยุโรป ในปีพศ 2440 โดยเป็นกษัตริย์สยามพระองค์แรก ที่เสด็จเยือนฝรั่งเศส
อาคารหลังนี้ถูกออกแบบสร้างด้วยศิลปะ แบบ โคโคเนียล ตั้งตระหง่านริมแม่น้ำเจ้าพระยา มานาน กว่า 161 ปี แล้ว ในอดีต กงสุลฝรั่งเศสได้เช่าสถานที่นี้ เดิมคือ อาคารโรงภาษี ต่อมา รัชกาลที่ 5 พระราชทานที่ดินผืนนี้ให้ประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบัน ใช้เป็นบ้านพักเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส
และเนื่องในวันมรดกยุโรป ก็เป็นเวลาที่เหมาะสมในการเปิดบ้านท่านทูต ให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาเยี่ยมชม เรียนรู้ และ ศึกษา ประวัติศาสตร์ ที่บ้านโบราณหลังงาม ที่เราเคยได้เห็นแต่จากด้านนอก เวลาล่องเรือโดยสาร บนแม่น้ำเจ้าพระยา
พณท่าน จิลส์ การาชง เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ได้ออกมาทักทาย และพูดคุยกับ ผู้เยี่ยมชมอย่างเป็นกันเองค่ะ ให้ถ่ายภาพหมู่ ภาพคู่ ไปจนถึงเซลฟี่ ด้วยรอยยิ้ม ตลอดทั้งวัน
โดย ท่านทูตได้ให้สัมภาษณ์เป็นพิเศษกับเรา พูดถึงความตั้งใจเปิดบ้านให้ ทุกๆคนได้มาเรียนรู้ และ ความสัมพันธ์ระหว่าง ไทย และ ฝรั่งเศส ท่านนิยาม ประเทศไทย และ คนไทย ว่าเป็น เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ กันค่ะ
ในวันนี้ มีทั้งนักท่องเที่ยว ชาวไทย และ ต่างชาติ รวมถึงน้องๆ นิษิต นักศึกษา และ นักเรียน ที่ส่วนใหญ่เรียนเอกภาษา ฝรั่งเศส เดินทางเข้ามาศึกษา ประวัติศาสตร์จากสถานที่จริง เริ่มจากสวนหน้าบ้าน วิวแม่น้ำ ต่อด้วยห้องรับแขกขนาดใหญ่ ที่โต๊ะทำจากไม้สักและมีอายุเก่าแก่มาก ต่อเนื่องด้วยมุมเปียโน หลังเก่า แต่ยังเก๋า ห้องอาหารขนาดใหญ่เพื่อรองรับแขกคนสำคัญ และ ห้องอาหารเล็ก วิวสวย ที่เก็บของสะสมของทูตคนปัจจุบัน จัดเรียงใว้ได้อย่างกลมกลืน
ปิดท้ายกับนิทรรศการ ภาพ ประมุขเยือนมิตร เชื่อมไมตรีจิตการทูต ที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ ระหว่างสองประเทศ ผ่านการเสด็จประภาส เยี่ยมเยียน เจริญสัมพันธไมตรีกัน ของประมุขทั้งสองฝ่าย ที่มีมาตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ 5
ใครที่พลาดไป ต้องบอกว่าน่าเสียดายแทน แต่ไม่เป็นไรค่ะ วันมรดกยุโรป จะจัดต่อเนื่องแบบนี้ทุกปี จดใส่ปฎิทินกันใว้ อาทิตย์ที่ 3 ของเดือนกันยายน ส่วนใหญ่จะเลือกให้ตรงกับวันอาทิตย์ ปีหน้าห้ามพลาด

logoline